ร้องศธ.ออกประกาศม.รัฐห้ามตั้งอธิการบดีอายุเกิน60ปี

ร้องศธ.ออกประกาศม.รัฐห้ามตั้งอธิการบดีอายุเกิน60ปี

ทปสท.ร้องศธ.ออกเกณฑ์ประกาศม.รัฐทุกแห่งปฏิบัติตามกม.แต่งตั้งผู้เกษียณอายุราชการเป็นอธิการบดีไม่ได้ เผยราชภัฏ มีอธิการบดีอายุเกิน 60 ปี กว่าครึ่งของมรภ.ทั้งหมด ฝากคสช.ดำเนินการตามหลักนิติรัฐ

วันนี้ (30 ส.ค.61) เวลา 10.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.) ได้เดินทางยื่นหนังสือถึงนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการออกหนังสือเวียนและประกาศกลางถึงมหาวิทยาลัยของรัฐ ซึ่งเป็นส่วนราชการทุกแห่งให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในเรื่องการแต่งตั้งผู้เกษียณอายุราชการเป็นอธิการบดีไม่ได้ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมี นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เป็นผู้มารับเรื่อง


นายวิริยะ ศิริชานนท์ ประธานทปสท.กล่าวว่ากลุ่ม ทปสท.ไม่ได้มีปัญหากับผู้เกษียณอายุราชการ แต่ทั้งนี้ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดจะแต่งตั้งผู้เกษียณอายุราชการเป็นอธิการบดีไม่ได้ ผู้ที่จะเป็นอธิการบดีต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ ดังนั้น ผู้เกษียณอายุราชการแม้จะเป็นบุคคลที่มีความสามารถ แต่ในฐานะทปสท. ซึ่งต้องปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย รักษาระบอบนิติรัฐ และความเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสถาบัน อยากเรียกร้องให้ศธ. ออกกรอบหรือกำหนดแนวทางแจ้งไปยังมหาวิทยาลัยของรัฐ ในส่วนราชการทุกแห่งให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งอธิการบดี รักษาราชการแทนอธิการบดี และผู้บริหารระดับสูง จะต้องเป็นผู้ที่ยังไม่เกษียณอายุราชการ เพื่อให้เป็นไปตามแนวคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว และไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 157

“ข้อเรียกร้องดังกล่าว ดำเนินการเฉพาะในส่วนของมหาวิทยาลัยของรัฐ คือกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฎ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เท่านั้น เนื่องจากเป็นมหาวิทยาลัยในส่วนราชการ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ โดยเกณฑ์กลางที่อยากให้เน้นย้ำคือ ให้ปฎิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ผู้ที่อายุเกิน 60 ปี ถือเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ส่วนกรณีของผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นอธิการบดี และอายุเกิน 60ปี กำลังรอโปรดเกล้าฯ นั้น ถือเป็นหน้าที่ของรมว.ศธ.ที่ต้องวางกรอบและบอกแนวทางผู้อายุเกิน 60 ปีจะทำอย่างไร” นายวิริยะ กล่าว

นายจิตเจริญ ศรขวัญ ประธานที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทป.มรภ.) กล่าวว่าหลังจากมีคำสั่งศาลดังกล่าว พบว่ามีกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ ซึ่งถือเป็นคนกลุ่มน้อยได้ออกมาเรียกร้อง และเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่ง ม.44 ลบล้างอำนาจศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว จึงอยากวินวอนให้คสช. ดำเนินการตามหลักนิติรัฐ และกฎหมาย อีกทั้ง ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยของรัฐ อย่าง มหาวิทยาลัยราชภัฎ(มรภ.) 38 แห่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.)9 แห่ง โดยเฉพาะในส่วนของมรภ. มีผู้ที่อายุเกิน 60 ปี ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมากกว่าครึ่งหนึ่งของมหาวิทยาลัยทั้งหมด แต่เมื่อมีคำสั่งศาลปกครองออกมาเช่นนี้ ต่อให้เข้ามาสู่ตำแหน่งก่อนอายุ 60 ปี แต่ตอนนี้เมื่ออายุ 60 ปีแล้ว ก็ควรจะออกจากตำแหน่ง ต้องรับผิดชอบในการดำเนินการ ตามกฎหมาย

นายสุภัทร กล่าวว่าปัจจุบันมีอธิการบดีม.ของรัฐจำนวนหนึ่งที่มีอายุเกิน 60 ปี กำลังรอการตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อยื่นโปรดเกล้าฯ ซึ่งการพิจารณาแต่งตั้งอธิการบดีไม่ใช่หน้าที่ของสกอ. แต่เป็นหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย สกอ.ทำหน้าที่เพียงตรวจสอบคุณสมบัติเท่านั้น โดยหลังจากนี้ จะต้องไปหารือกับนายกสภามหาวิทยาลัยถึงการแก้ปัญหากรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งอธิการบดีอายุไม่เกิน 60 ปี เรื่องนี้มีหลายกรณีที่ต้องแก้ไข และทำความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าสู่ตำแหน่งอธิการบดีก่อนอายุ 60 ปี แล้วตอนนี้อายุ 60 ปี จะดำเนินการอย่างไร หรือ อธิการบดีหลายคนที่มีอยู่ในขั้นตอนของการฟ้องร้องศาลต่างๆ ก็คงต้องรอการพิจารณาจากศาลก่อน นอกจากนี้ สกอ.จะนำเรื่องทั้งหมดนำเข้าคณะอนุกรรมการกฎหมาย เพื่อพิจารณาก่อนแล้วค่อยดำเนินการต่อไป