ป่วน! ซีอีโอนกแอร์ทิ้งเก้าอี้ ขัดแย้ง 'จุฬางกูร' ผู้ถือหุ้นใหญ่

แหล่งข่าวคณะกรรมการบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) (NOK) เปิดเผยว่า นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ได้ยื่นหนังสือลาออก เนื่องจากแผนธุรกิจที่ส่งไปให้บอร์ดพิจารณาไม่ได้รับการอนุมัติ ทำให้นายปิยะไม่พอใจ นอกจากนี้นายปิยะยังทราบด้วยว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ปัจจุบันคือกลุ่มจุฬางกูรมีแผนการขายหุ้นออกไปให้นักลงทุนรายใหม่ มีส่วนทำให้แผนที่ส่งไปไม่ผ่าน เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่อยากให้แต่งตัวบริษัทในช่วงสั้นๆ หากมีต่างชาติแสดงความสนใจเข้ามา สามารถขายหุ้นออกไปได้ แต่แผนที่ส่งไปเป็นแผนฟื้นธุรกิจบริษัทในระยะยาวและยังมีการเพิ่มทุนรอบใหม่ด้วย

ขณะที่กลุ่มจุฬางกูร ที่ประกอบด้วย และนายณัฐพล นายทวีฉัตรและนางหทัยรัตน์ จุฬางกูร ถือหุ้นรวมกัน 49.34% ไม่เห็นด้วยเพราะก่อนหน้านี้ ได้ทำการเพิ่มทุนมาแล้ว 2 ครั้ง ยังเห็นว่าแผนธุรกิจที่นายปิยะส่งมา ไม่สามารถพลิกฟื้นผลการดำเนินงานบริษัทได้ในระยะใกล้
“มีทุนต่างชาติทั้งสิงคโปร์และจีนให้ความสนใจซื้อหุ้นใหญ่นกแอร์ เชื่อว่าหากได้ราคาดีกลุ่มจุฬางกูรก็อาจจะทำกำไรก็เป็นได้ ทำให้แผนที่คุณปิยะถูกปฏิเสธ โดยบอร์ดจะแจ้งเรื่องนี้ต่อตลาดหลักทรัพย์และแต่งตั้งคุณประเวช องอาจสิทธิกุล ประธานกรรมการบริหาร รักษาการแทน จากนั้นจะมีการสรรหาซีอีโอคนใหม่ต่อไป”

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ เริ่มจากนายปิยะตัดสินใจลาออกเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ยื่นเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ดเมื่อเช้าวันที่ 27 ส.ค.ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินทางไปสหรัฐเพื่อส่งลูกเรียนต่อ ทั้งนี้ ที่ประชุมบอร์ดไม่มีการยับยั้งแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ยืนยันที่เดินหน้าทำธุรกิจ โดยหาผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาทำหน้าที่แทน

“การสรรหาซีอีโอคนใหม่ ทางบอร์ดอยากได้ผู้บริหารที่เข้ามาดูธุรกิจในเชิงลึก และสามารถแก้ไขปัญหาออกมาเป็นรูปธรรมได้ เพราะธุรกิจสายการบินมีการเติบโตที่ดีในระยะยาว แต่การจะทำให้มีกำไรได้นั้นยากท่ามกลางภาวะตลาดที่มีการแข่งขันที่รุนแรง” แหล่งข่าวระบุ
ก่อนหน้านี้ สายการบินนกแอร์ โดยคณะกรรมการมีมติกู้เงินระยะสั้นวงเงิน 1 พันล้านบาท โดยให้กู้จากนางหทัยรัตน์ จุฬางกูร ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 วงเงิน 500 ล้านบาท ในรูปของตั๋วสัญญาใช้เงินไม่มีหลักประกัน อัตราดอกเบี้ย 6% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานะทางการเงินบริษัทไม่สู้ดีนัก ทำให้ธนาคารพาณิชย์อาจไม่รับพิจารณาหรืออนุมัติเงินกู้ ประกอบกับการกู้เงินผู้ถือหุ้นส่งผลต่อสัดส่วนการครอบครองหุ้น ซึ่งอาจเป็นเป้าประสงค์ของผู้ถือหุ้น

โดยเฉพาะกลุ่มจุฬางกูรที่น่าจะพอใจ หากสัดส่วนการถือหุ้นมีมากขึ้น เพราะยิ่งทำให้อำนาจการต่อรองในบริษัทสูงขึ้น สัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่จะมีแบบเบ็ดเสร็จจากปัจจุบันที่หุ้น 49.34% แบ่งเป็นนางหทัยรัตน์สัดส่วน 7.08% นายทวีฉัตร จุฬางกูร 18.49% และนายณัฐพล จุฬางกูร 23.77%

ขณะนี้ ตลาดหลักทรัพย์ยังได้ขึ้นเครื่องหมาย C หุ้น NOK หมายถึง บริษัทที่มีความเสี่ยงด้านฐานะการเงิน และงบการเงิน ขณะที่ส่วนผู้ถือหุ้นของนกแอร์เหลือน้อยกว่า 50%ของทุนชำระ 2,271 ล้านบาท ส่วนหนี้สินต่อทุนหรือดี/อี เรโชเกิน 12 เท่า และอัตราส่วนสภาพคล่องที่ 0.61 เท่า ณ ไตรมาส 2 ของปี 2561 มีรายได้ 4,841 ล้านบาท ขาดทุน 830 ล้านบาท

หากพิจารณาจากราคาหุ้น NOK ปัจจุบันราคาหุ้นละ 2.30 บาท หรือนับจากต้นปีราคาหุ้นลดลงกว่า 30% และหากนับตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อปี 2556 ราคาหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ) หุ้นละ 26 บาท เคยทำสถิติสูงสุดเคยแตะ 29 บาท ต่อหุ้น อย่างไรก็ดี มีการเพิ่มทุนหลายครั้ง กระทั่งราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 บาท แต่ก็ยังสูงกว่าหุ้นละ 2.30 บาท ในปัจจุบัน

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า สายการบินนกแอร์ แจ้งมติที่ประชุมกรรมการวาระพิเศษเมื่อวันที่ 27 ส.ค.2561 มีมติอนุมัติตามความประสงค์ของนายปิยะ ที่ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการชุดย่อยของบริษัททุกคณะ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.2561 และพ้นจากการเป็นพนักงานของบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.2561

ทั้งนี้ บริษัทได้แต่งตั้ง นายประเวช เข้าดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทน มีผลตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.เป็นต้นไป และบริษัทอยู่ระหว่างสรรหากรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป