รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นบิ๊กตร.ลวงเหยื่อโอนเงิน

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นบิ๊กตร.ลวงเหยื่อโอนเงิน

ศปอส.ตร. รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์เวียดนาม อ้างเป็นบิ๊ก ตร.ลวงเหยื่อโอนเงิน

จากกรณีศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. นำโดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ในฐานะรอง ผอ.ศปอส.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.บช.ภ.2 ได้สนธิกำลังกระทรวงตำรวจและกองบังคับการความมั่นคงอินเทอร์เน็ตและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทลายขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในห้องพักหรู ภายในโครงการวินโฮมส์ เซ็นทรัล พาร์ค ใจกลางกรุงโฮจิมินห์ จับกุมผู้ต้องหาได้ 21 ราย เป็นคนไทย 19 ราย ไต้หวัน 2 ราย

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันนี้ (26 ส.ค.) มีรายงานว่า หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาทางกระทรวงตำรวจเวียดนามได้ส่งตัวผู้ต้องหาชาวไทยทั้ง 19 ราย มาให้กับทางการไทยดำเนินคดี โดยเบื้องต้นภายหลังการรับตัว ตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้ง 19 ราย ไปควบคุมตัวที่ สน.หัวหมาก ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวน ศปอส.ตร. และพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 19 ราย ซึ่งทั้งหมดได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

พ.ต.ท.นพพร ศรีสุชาติ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.หัวหมาก เผยว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด 19 คน ซึ่งทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยมีการวางระบบ แบ่งหน้าที่กันทำงานในการโทรศัพท์ไปหลอกลวงผู้เสียหายว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อข่มขู่ให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวจนหลงเชื่อโอนเงินมาจนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวอีกครั้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหลังจากแถลงข่าวเสร็จก็จะนำผู้ต้องหาทั้งหมดฝากขังศาลอาญา รัชดา ต่อไป

ทั้งนี้ มีรายงานว่าขบวนการคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ ได้อ้างหน่วยงานของตำรวจในการหลอกผู้เสียหาย ซึ่งสอดรับกับข้อมูลหลักฐานที่ชุด ศปอส.ตร. ตรวจพบในที่เกิดเหตุที่พบบทสคริปต์ที่ใช้หลอกเหยื่อ มีการอ้างถึงนายตำรวจระดับสูง สอดรับกับคำสารภาพของ นายธนาวุฒิ หรือ ปาย อายุ 27 ปี ชาวอุบลราชธานี ที่ได้รับว่าเป็นผู้อ้างชื่อนายตำรวจระดับสูงหลอกผู้เสียหายให้โอนเงินจริง โดยหลอกเหยื่อให้โอนเงินกว่า 1.5 แสนบาท นอกจากนี้กลุ่มผู้ต้องหาได้ให้ข้อมูลว่าเดินทางจากประเทศไทยมาลงที่กรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะที่นายธนาวุฒิได้เดินทางมาพร้อมกับ น.ส.วรรัก อายุ 24 ปี แฟนสาว ชาวจังหวัดสมุทรปราการ จากประเทศลาว ด้วยสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ เที่ยวบิน VN921 เพื่อมาสมทบกับชาวไทยที่เดินทางมาก่อนหน้านี้