รวบขบวนการตุ๋นลงทุนทองเหยื่อสูญ 50 ล้าน

รวบขบวนการตุ๋นลงทุนทองเหยื่อสูญ 50 ล้าน

"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" รวบ3ผู้ต้องหา โพสต์เฟสบุ๊คชวนลงทุนทอง เหยื่อสูญ 50 ล้าน

เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 25 สิงหาคม ที่สน.พญาไท พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนางปวีรา วงษ์ภักดี อายุ 38 ปี นายตะวัน ประทุมมี อายุ 31 ปี ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน และน.ส.รัศนพาพร ประทุมมี อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นพี่สะใภ้ของนายตะวัน โดยทางกลุ่มผู้ต้องหาทำการหลอกลวงประชาชนให้ลงทุนซื้อทองคำมูลค่าความเสียหาย 50 ล้านบาท มีผู้หลงเชื่อร่วมลงทุนกว่า 30 ราย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ทางกลุ่มผู้ต้องหาได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กลักษณะเชิญชวนให้คนมาลงทุนเก็งกำไรทองคำแท่ง โดยโฆษณาว่าลงทุน 10 วัน จะได้ทุนบวกกำไรกลับคืน โดยอ้างว่าลงทุนซื้อทองคำแท่งในราคา 18,000 บาท จะขายได้ 19,700 บาท โดยไม่มีหน้าร้าน ไม่เสียค่าพนักงาน ไม่มีค่าน้ำค่าไฟ ทำให้ซื้อทองได้ถูกลงกว่าที่อื่น มีคนหลงเชื่อลงทุนเพิ่ม คนเริ่มซื้อทองมากขึ้นเรื่อย ๆ ครั้งแรกก็มีทองคำมาให้ แต่พอเมื่อปริมาณสั่งซื้อทองคำมากขึ้นก็ไม่มีทองมาให้แล้ว อีกทั้งยังหมุนเงินไม่ทัน ก่อนอ้างว่าขอไม่จ่ายเงินตามที่ตกลงไว้ เพราะมีบุคคลอื่นเอาเงินไปจนทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เมื่อได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์จึงติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ยังสืบทราบว่ายังมีผู้อยู่เบื้องหลังอีก ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมขยายผลต่อไป

"ขอฝากไปยังประชาชนถ้ามีการทำธุรกรมทางการเงินต้องสงสัย ก่อนจะเริ่มทำธุรกรรมขอให้โทร.ไปยังหมายเลข 1155 ซึ่งเป็นเบอร์ของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจให้คำแนะนำว่าธุรกรรมนั้น ๆ เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว

สำหรับกลุ่มผู้ต้องหา นางปวีรารับราชการเป็นเจ้าหน้าที่อบต.แห่งหนึ่งในจ.บุรีรัมย์ โดยตลอดการสอบปากคำได้ให้การรับสารภาพว่าได้ส่วนแบ่งจากแต่ละหัวในราคา 50 บาท พร้อมได้เปอร์เซ็นต์จากการซื้อขายทองคำแท่งอีก เฉลี่ยต่อเดือนจะมีรายได้เดือนละ 2-3 แสนบาท ทำมาแล้ว 1 ปี และจะมีการโอนเงินที่หลอกมาได้ไปยังตัวแทนที่นำทองมาให้ตนอีกต่อหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปพร้อมประชาสัมพันธ์ประชาชนที่เคยถูกก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวเข้าดูตัวผู้ต้องหาได้ที่สน.พญาไท

ด้านน.ส.ภคพรรณ อเนชากุล อายุ 40 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัวขายของออนไลน์ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรู้จักกับผู้ต้องหาเมื่อปี 60 โดยผู้ต้องหาได้ลงโฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊กเรื่องการขายทอง อ้างว่าราคาจะถูกกว่าท้องตลาด 2,000-3,000 บาท ตนได้ตรวจสอบโปรไฟล์และรายละเอียดต่าง ๆ พบว่าจะต้องมีการลงชื่อสมัครสมาชิกก่อน แล้วจะมีการออกบัตรตัวแทนให้ จึงคิดว่ามีความน่าเชื่อถือมาก เมื่อเป็นสมาชิกก็จะมีส่วนลดราคาทองให้ถูกลงไปอีก จากนั้นก็ทำการนัดรับทองตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งในช่วงแรกมีการนำทองมาซื้อขายจริง และตนก็สามารถนำทองไปขายให้กับร้านค้าทองทั่วไปได้จริง จึงมีการซื้อขายทองมาแล้วเป็นจำนวน 10 ครั้ง ในช่วงเดือนมี.ค.ถึงเดือนเม.ย. 60 จนกระทั่งมีผู้ที่มาร่วมลงทุนกับตนประมาณ 20 คน ก็มีการลงทุนหมุนเวียนกันประมาณ 50 ล้าน ซึ่งได้กำไรมาแล้ว 20 ล้าน ยังคงเหลือกำไรที่จะต้องได้อีกประมาณ 34 ล้านบาท

น.ส.ภคพรรณ กล่าวต่อว่า ต่อมาช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมาทางผู้ต้องหาอ้างว่า เพื่อเป็นการไม่ให้เสียเวลาและสะดวกกับลูกค้าสมาชิก ก็ได้เปลี่ยนการซื้อขายทองที่จะต้องนัดรับเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีแทน และเมื่อโอนแล้วจะไม่สามารถถอนเงินที่โอนไปแล้วออกได้ จากนั้นผู้ต้องหาจะเป็นคนดำเนินการเรื่องทองทั้งหมด เมื่อขายทองได้โดยมีระยะเวลา 7-10 วันก็จะมีการโอนกำไรมาให้ซึ่งทำมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเดือนพ.ค.ที่ผ่านมานั้นผู้ต้องหาอ้างว่าถูกคนในทีมยักยอกเอาทองที่จะนำมาขายให้กับสมาชิกไป จึงไม่มีทั้งต้นทุนและเงินกำไรมาคืนให้กับสมาชิก ตนจึงตัดสินใจเข้ามาปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

รวบขบวนการตุ๋นลงทุนทองเหยื่อสูญ 50 ล้าน