ชาวเวเนฯหนีตายพิษศก.กว่า2ล้านคน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นับตั้งแต่ต้นปีมานี้ ผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาเดินทางเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเอกวาดอร์ เปรู โคลอมเบีย และบราซิล เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 4,000 คน ขณะที่ประชาชนในของประเทศปลายทางต่างพยายามผลักดันผู้อพยพส่วนใหญ่กลับไป เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราการเกิดอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลของกลุ่มประเทศเหล่านี้ ก็เพิ่มความเข้มงวดในการใช้มาตรการตรวจคนเข้าเมืองสำหรับชาวเวเนซุเอลาโดยเฉพาะ

ล่าสุด สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอชซีอาร์ ) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ( ไอโอเอ็ม ) ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันศุกร์ (24 ส.ค.) ขอความร่วมมือจากประเทศในอเมริกาใต้ผ่อนคลายความเข้มงวดของมาตรการควบคุมพรมแดนให้แก่ชาวเวเนซุเอลา ซึ่งยังคงอพยพหลบหนีภาวะแร้นแค้นทางเศรษฐกิจในประเทศอย่างต่อเนื่องมากกว่า 2.3 ล้านคน คิดเป็น 7.5% ของพลเมืองทั้งประเทศที่มีประมาณ 30.6 ล้านคน นับตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจปะทุเมื่อปี 2557

อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยของเอกวาดอร์ ประกาศยกเลิกมาตรการตรวจหนังสือเดินทางของผู้อพยพเวเนซุเอลา พร้อมจัดตั้งเส้นทางเพื่อมนุษยธรรม ด้วยการเตรียมรถบัสโดยสารประมาณ 35 คัน คอยรับส่งพลเมืองเวเนซุเอลา ซึ่งประสงค์เดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม ส่วนใหญ่จะเป็นเปรู  ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในอเมริกาใต้ 

นอกจากนี้  อาร์เจนตินา บราซิล โคลอมเบีย คอสตาริกา ชิลี เม็กซิโก เปรู ปารากวัย ปานามา สาธารณรัฐโดมินิกัน อุรุกวัย มีกำหนดประชุมร่วมกันที่กรุงกีโต เมืองหลวงของเอกวาดอร์ ระหว่างวันที่ 17-18 ก.ย. นี้ เพื่อหารือการจัดการวิกฤติผู้อพยพจากเวเนซุเอลา