รอง ผบช.ทท. แถลงผลการบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เวียดนาม

รอง ผบช.ทท. แถลงผลการบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เวียดนาม

"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" แถลงผลการบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เวียดนาม ความเสียหายในไทยกว่า 50 ล้านบาท

เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 24 สิงหาคม .2561 ที่ห้องประชุมชั่วคราว สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.บช.น.และ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รอง ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงผลการบุกทลายแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ประเทศเวียดนามได้ผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวน 18 ราย มูลค่าความเสียหายในประเทศไทยกว่า 50 ล้านบาท


พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า การเข้าจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจไทย และ กองบังคับการความมั่นคงอินเตอร์เน็ตและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีและเจ้าหน้าที่ตำรวจเมือง โฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม หลังสอบสวนขยายผลจากข้อมูลของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ยังมีการหลอกลวงคนไทย จนทราบว่าศูนย์บัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม โดยตั้งแก๊งมาได้ประมาณ 2 เดือน มีคนไทยหลายรายเป็นพนักงานและมีชาวไต้หวันเป็นหัวหน้าคอยควบคุม ซึ่งบางคนมีหมายจับในประเทศไทยมานานแล้ว แต่หลบหนีไม่ยอมกลับเข้าไทย และใช้เครือข่ายอาชญากรข้ามชาติในการช่วยเหลือให้หลบหนีการจับกุม จนมาตั้งแก๊งคอลเซอร์เตอร์ขึ้นมาอีก ซึ่งอยู่ในย่านเมืองใหม่ วินโฮมคอนโดมิเนียม เซ็นทรัลพาร์ค เมืองโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมหรู ในประเทศเวียดนาม และแยกกันอยู่หลายอาคาร รวม 4 ห้อง มีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี แบ่งออกเป็นห้อง ๆ และมีโต๊ะพร้อมอุปกรณ์สื่อสารทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้งาน สมุดบัญชีธนาคาร โพยรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง รวมถึงบทพูดคุยระหว่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับเหยื่อที่กำหนดไว้ให้


เช่น จากหน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งจากการเข้าจับกุมในครั้งนี้มีคนไทยจำนวน 16 คน ทำหน้าที่โทรศัพท์หาเหยื่อปลายทาง ในประเทศไทย โดยมีชาวไต้หวันจำนวน 2 คน คอยควบคุมและสั่งการในการหลอกลวงเหยื่อ ซึ่งแก๊งนี้เริ่มปฏิบัติการหลอกลวงคนไทยประมาณ 2 เดือน มีผู้เสียหายจำนวนมากมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท และมีเหยื่อที่หลงกลโอนเงินรายล่าสุดจำนวนกว่า 800,000 บาทในพื้นที่ สน.หัวหมาก หลังจากที่เข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ และทั้งหมดถูกควบคุมตัวและสอบปากคำที่ประเทศเวียดนาม หลังการสอบสวนแล้วเสร็จทางการของเวียดนาม ก็จะส่งตัวผู้ต้องหาชาวคนไทยทั้ง 16 คน กลับมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศไทย ดำเนินคดีอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ใน 3 ข้อหาหนัก คือ ข้อหาที่ 1ฉ้อโกงประชาชน ข้อหาที่ 2 มีความผิดตาม พ.ร.บ.มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สุดท้ายก็คือความผิดฐานฟอกเงิน พร้อมผู้ต้องหาชาวไทยจากฟิลิปปินส์ ที่ทางศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ไปบุกทลายมาก่อนหน้านี้จำนวน 8 ประเทศ ส่วนคนที่เป็นนายหน้าคอยจัดหาคนไทยไปทำงานในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในต่างแดนนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการนี้ต่อไป