ทีเส็บเปิดมิติใหม่ไมซ์เพื่อชุมชน

ทีเส็บเปิดมิติใหม่ไมซ์เพื่อชุมชน

ทีเส็บ เปิดพื้นที่ดึงชุมชนสหกรณ์ จับคู่เจรจาต่อยอดธุรกิจกับเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ ตามนโยบายให้ไมซ์ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ เปิดเผยว่า การส่งเสริมตลาดอุตสาหกรรมไมซ์ภายในประเทศปีนี้ ทีเส็บมีแนวทางในการผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และชุมชน 3 ประสานประชารัฐ เพื่อให้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นตามนโยบายรัฐบาล

“ทีเส็บเล็งเห็นว่า ชุมชนสหกรณ์ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพทั้งในด้านการเป็นจุดหมายปลายทางใหม่รองรับการจัดงานไมซ์ (การจัดประชุม งานแสดงสินค้า และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล) และการร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค" ดร.อรรชกา กล่าว

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บได้ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์จัดโครงการ “ไมซ์เพื่อชุมชน” ขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นที่มีความพร้อมได้พัฒนาสู่การรองรับธุรกิจการจัดงานไมซ์ โดยเฉพาะในเรื่องของการเป็นสถานที่ศึกษาดูงาน กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับชุมชนหรือจัดกิจกรรมพิเศษตามวาระโอกาสขององค์กรธุรกิจต่าง ๆ ด้วยจุดแข็งด้านความคิดสร้างสรรค์บนพื้นฐานทรัพยากรและอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน ซึ่งจะสามารถเป็นช่องทางใหม่ด้านรายได้แก่สหกรณ์

ทีเส็บและกรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้คัดสรรสหกรณ์ที่มีศักยภาพ 35 แห่ง ให้เป็นพื้นที่นำร่องโดยจะจัดทำเป็นคู่มือสถานที่จัดงานไมซ์เพื่อชุมชน เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มตลาดเป้าหมายผ่านสื่อต่าง ๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งจากการนำคณะผู้แทนองค์กรธุรกิจและสื่อมวลชนไปเยี่ยมชมชุมชน ณ สหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จำกัด จ.เพชรบุรี และสหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด จ.สระบุรี ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างดี และสร้างความตื่นตัวให้กับชุมชนในการเป็นสถานที่จัดงานไมซ์เป็นอย่างมาก

ในการนี้ยังร่วมมือกันจัดกิจกรรม Table Top Sale ซึ่งเป็นการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้แทนจากองค์กรธุรกิจชั้นนำ มูลนิธิต่างๆ สถานศึกษา สถาบันการเงิน รวมกว่า 100 ราย มาพบปะเจรจากับผู้แทนชุมชนสหกรณ์กว่า 16 แห่ง ที่มาร่วมออกบูธในงาน “ไมซ์เพื่อชุมชน มิติใหม่อุตสาหกรรมไมซ์ไทย” เพื่อร่วมกันแสวงหาโอกาสที่จะแบ่งปันองค์ความรู้ ช่วยต่อยอดการพัฒนาสินค้าและบริการของชุมชน

"แนวทางนี้จะนำเอางานเพื่อสังคมของภาคเอกชน ไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ สามารถนำความรู้ เช่นการผลิต การตลาด บรรจุภัณฑ์หรือแม้แต่ทุน ไปช่วยเพิ่มความเข้มแข็งแก่สหกรณ์ ซึ่งชนบทก็จะพัฒนาขึ้นตามมา"

ด้านนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ความร่วมมือในการจัดทำโครงการ “ไมซ์เพื่อชุมชน” ครั้งนี้ มีเป้าหมายในการร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็งตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งกระจายรายได้สู่ชุมชนต่าง ๆ โดยใช้กลไกสหกรณ์เป็นตัวขับเคลื่อน

"การส่งเสริมให้เกิดการศึกษาดูงานและการท่องเที่ยวในชุมชนต่าง ๆ นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้ โดยมีสหกรณ์เป็นศูนย์กลางของชุมชน ทำหน้าที่นำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของพื้นที่นั้น ๆ ให้มีความน่าสนใจ รวมถึงรวบรวมสินค้าพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ทั้งสินค้าประเภทอาหาร ขนมพื้นบ้าน สินค้าเกษตรแปรรูปและอื่น ๆ ที่ชุมชนภาคภูมิใจมาเล่าสู่ผู้ที่เข้าไปศึกษาดูงาน ให้ประทับใจ"

ขณะนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เตรียมความพร้อมสหกรณ์นำร่อง 35 แห่งที่เข้าร่วมโครงการนี้ โดยรวบรวมข้อมูลเรื่องราวต่าง ๆ และสินค้าของดีแต่ละชุมชนมาเป็นจุดขายและดึงดูดให้หน่วยงานต่าง ๆ ไปเยี่ยมชมและเกิดการบอกต่อเรื่องราวเหล่านั้นขยายออกไปในวงกว้าง

กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังจะนำโครงการ “ไมซ์เพื่อชุมชน” มาเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็ง ภายใต้โครงการ 1 อำเภอ 1 สหกรณ์การเกษตร เพื่อให้สหกรณ์เปิดรับประสบการณ์ ความรู้ แนวความคิดใหม่ๆ จากภาคเอกชน เพิ่มความเข้มแข็ง เป็นที่พึ่งแก่สมาชิกในชุมชน

“ไมซ์เพื่อชุมชน เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ภายในประเทศของทีเส็บ ซึ่งจะเสริมให้เราบรรลุเป้าหมายนักเดินทางไมซ์ในประเทศไม่ต่ำกว่า 29 ล้านคน สร้างรายได้ให้ประเทศ 62,000 ล้านบาท” ดร.อรรชกา กล่าวสรุป