'สุรเชษฐ์' รวบแก๊ง! โรแมนซ์สแกมจีบสาวไทย ลวงเหยื่อโอนเงิน

'สุรเชษฐ์' รวบแก๊ง! โรแมนซ์สแกมจีบสาวไทย ลวงเหยื่อโอนเงิน

“สุรเชษฐ์” รวบแก๊ง! "โรแมนซ์สแกม" หลอกหญิงไทยให้รักจนหลงเชื่อโอนเงิน พบเหยื่อหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 24 ส.ค.61 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. แถลงข่าวการจับกุมแก๊งแสร้งรักออนไลน์ หรือโรแมนสแกมซ์ ร่วมกันหลอกลวงประชาชนคนไทย ด้วยวิธีการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นผ่านโชเชี่ยลเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ จากนั้นจึงร่วมกันหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารต่างๆ ประกอบไปด้วยนายแซมซัน เอ็นนามดี้ ออจิ อายุ 32 ปี ชาวไนจีเรีย นายโอรูบอร์ คิงลี่ โนซ่า อายุ 38 ปี ชาวไนจีเรีย และนายจีน อิริค ทูคาม อายุ 41 ปี ชาวแคมารูน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้มีผู้เสียหายถูกหลอกลวงในพื้นที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร มูลค่าความเสียหาย 35,500 บาท และ สภ.เมืองระยอง ความเสียหาย 79,500 บาท เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) จึงสืบสวนติดตามจับกุม นายแซมซัน เอ็นนามดี้ ออจิ ที่ทำหน้าที่ถอนเงิน จากบัญชีที่ใช้หลอกผู้เสียหาย โดยมี น.ส.กัญญาภัค อายุ 26 ปี ทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารและเป็นนกต่อแสร้งเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่ง โทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหาย ส่วนนายโอรูบอร์ คิงลี่ โนซ่า อายุ 38 ปี เป็นเครือข่ายร่วมแก๊ง

จากการสืบสวนขยายผล พบว่า เครือข่ายดังกล่าวใช้เงินดอลลาร์ปลอมหลอกลวงผู้เสียหาย โดยร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายในพื้นที่ สน.สุทธิสาร อีก 1 ราย ซึ่งได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงิน 119,000 บาท เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.จึงได้ประสานไปยังผู้เสียหายทราบว่า ยังสามารถติดต่อกับคนร้ายที่ทำหน้าที่เป็นสแกมเมอร์ ต่อมาคนร้ายดังกล่าวได้ติดต่อให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มให้อีก 150,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่หลงเชื่อคนร้ายจึงแจ้งว่าจะให้ผู้เสียหายไปพบกับเพื่อนชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะได้เงินและทรัพย์สินมีค่าจริง โดยให้ไปพบกับเพื่อนชาวต่างชาติที่บริเวณซ.รามคำแหง 24 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เมื่อวันที่ 20 ส.ค.เวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนเข้าจับกุมนายจีน อิริค ทูคาม ตรวจค้นพบธนบัตรชนิดฉบับละ 100 ดอลลาร์สหรัฐปลอมห่อด้วยกระดาษใสและขุ่น จำนวน 26 มัด และอุปกรณ์ต้องสงสัยใช้ในการปลอมธนบัตร โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และทรัพย์สินหลายรายการ ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ของผู้ต้องหา สอบสวนรับว่าได้ธนบัตรปลอมดังกล่าวมาจากเพื่อนชาวแคเมอรูนซึ่งอยู่ต่างประเทศ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า นายจีน อิริค ทู ผู้ต้องหามีหน้าที่รับข้อมูลผู้เสียหายจากกลุ่มสแกมเมอร์ และติดต่อกับผู้เสียหาย นำเงินปลอมดังกล่าวให้ผู้เสียหายดู เพื่อหลอกลวงให้หลงเชื่อโอนเงินให้กับกลุ่มสแกมเมอร์ โดยจะได้ค่าตอบแทน 15 เปอร์เซ็นจากเงินที่หลอกได้ ส่วนธนบัตรปลอม ดังกล่าวได้ทำตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่สถานฑูตสหรัฐอเมริกาและพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผลการตรวจสอบธนบัตรดังกล่าวเป็นของปลอมทั้งหมด โดยปลอมในลักษณะใช้เครื่องปั๊มธนบัตรที่มีความละเอียดและคล้ายคลึงกับธนบัตรของจริง บางส่วนใช้การถ่ายเอกสารสี ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนจะได้ทำการสืบสวนหาที่มาของธนบัตรปลอม และจากการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าสถิติการเกิดเหตุลดลงอย่างมาก จากเดิมทีมีผู้เสียหายเดือนละประมาณ 20-30 ราย แต่ขณะนี้เหลือประมาณ 10 ราย