ช้อปปี้อัดแคมเปญชิงอีคอมเมิร์ซ

ช้อปปี้อัดแคมเปญชิงอีคอมเมิร์ซ

“ช้อปปี้“ ประเมินอีคอมเมิร์ซไทยโตแรง รับอานิสงส์การเข้าถึงโมบาย โซเชียลเน็ตเวิร์ค เดินหน้าลุยหนักการตลาด ลงทุนเพิ่มพนักงาน ล่าสุดเตรียมจัด “ช้อปปี้ 9.9 ซูเปอร์ ชอปปิง เดย์” คาดยอดขายเพิ่มจากช่วงเวลาปกติไม่น้อยกว่า 4 เท่า

นายเทอเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฎิบัติการ ช้อปปี้ กล่าวว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตได้สูงมาก ปัจจุบันมีจำนวนนักชอปออนไลน์อยู่มากกว่า 12.1 ล้านราย ทั้งมีการคาดการณ์ว่าปี 2564 หรืออีก 3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มไปถึง 13.9 ล้านราย กินสัดส่วน 20% ของประชากร ด้านการใช้จ่ายจากปัจจุบันต่อคนเฉลี่ยปีละ 8 พันบาท อีก 3 ปีคาดว่าจะเพิ่มไปถึง 12,700 บาท

ปัจจัยสำคัญมาจากอินฟราสตรักเจอร์มีความพร้อม ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและโมบายอินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบันประชากรไทย 70% สามารถเข้าถึงดิจิทัล มีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 41.57 ล้านคน โมบายอินเทอร์เน็ต 27.24 ล้านคน

ข้อมุลระบุว่า 5 ปัจจัยที่ผู้บริโภคไทยคำนึงถึงมากที่สุดประกอบด้วย ราคา ความหลากหลายของสินค้า ชื่อเสียงความน่าเชื่อถือ บริการจัดส่งฟรี และทางเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย

อย่างไรก็ดี โมบายนับเป็นช่องทางที่มีอิทธิพลมากที่สุด เมื่อต้องการเข้าถึงชอปปิงแพลตฟอร์มผู้บริโภคนิยมใช้โมบายแอพลิเคชั่น 67.3% ผสมทั้งโมบายแอพและเว็บไซต์บนพีซี 22.2% เฉพาะเว็บไซต์บนพีซี 10.5%

นอกจากนี้เป็นตลาดท็อป 10 ของโลกการใช้งานโซเชียลมีเดีย ด้วยผู้ใช้เฟซบุ๊คมากถึง 22 ล้านคน ที่ผ่านมามีการใช้โซเชียลคอมเมิร์ซสัดส่วนถึง 20% ของอีคอมเมิร์ซทั้งหมด ที่น่าสนใจพฤติกรรมนักชอปไทยนิยมค้นหาข้อมูลสินค้าบนออนไลน์ก่อนตัดสินใจ โดย 71% จะเชื่อตามเซเลบฯ บุคคลมีชื่อเสียง และ 74% จะซื้อสินค้าเมื่อได้ชมโฆษณาของกลุ่มคนดังกล่าวจบแล้ว

ด้านกลุ่มสินค้าที่มีการซื้อบนออนไลน์มากที่สุดคือ อิเล็กทรอนิกส์มูลค่า 4.18 หมื่นล้านบาท รองลงมาคือกลุ่มสินค้าแฟชั่นและเครื่องสำอางค์ มูลค่า 1.77 หมื่นล้านบาท ที่ช้อปปี้ที่นิยมอย่างมากเช่น พาวเวอร์แบงก์ ความงาม และกระเป๋าสะพายไหล่

สำหรับช้อปปิ้ มั่นใจว่าอยู่ในจุดยืนที่ดี ที่ผ่านมาเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันในไทยมียอดดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นที่กว่า 23 ล้านดาวน์โหลด ร้านค้ามากกว่า 8 แสนร้าน แบรนด์สินค้ากว่า 1,000 แบรนด์ ขณะที่พนักงานมีจำนวน 700 คน และจากนี้ยังมีแผนที่จะลงทุนขยายทีมต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าแต่ละเดือนมูลค่าการซื้อขายและจำนวนการสั่งซื้อสามารถเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก

“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญที่สำคัญที่สุดของเรา ความสำเร็จที่ได้มาเกิดจากการทำตลาดที่ให้ความสำคัญไปทั้งอีโคซิสเต็มส์ สอดรับไปกับความต้องการระดับท้องถิ่น พฤติกรรมผู้บริโภค มีการร่วมกับพันธมิตรโลจิสติกส์, ทำกิจกรรมทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงไลฟ์สตรีมมิ่งร่วมกับเซเลบริตี้ชื่อดัง”

ช้อปปี้เผยด้วยว่า ระดับภูมิภาคอาเซียนช่วง 6 เดือนแรกมูลค่าการซื้อขาย(จีเอ็มวี) เกิดขึ้นกว่า 2,200 ล้านดอลลาร์ คำสั่งซื้อมากกว่า 120 ล้านครั้ง ปัจจุบันทั่วภูมิภาคมียอดผู้ใช้งาน 160 ล้านคน

ล่าสุด เตรียมจัดมหกรรมลดราคาครั้งใหญ่ “ช้อปปี้ 9.9 ซูเปอร์ ชอปปิง เดย์” ระหว่างวันที่ 29 ส.ค. - 9 ก.ย. 2561 โดยร่วมมือกับร้านค้ากว่า 8 แสนร้าน และแบรนด์สินค้ากว่า 60 แบรนด์ ลดราคาสูงสุด 90% เพื่อกระตุ้นยอดขายบนแอพฯ ซึ่งคาดว่ายอดขายในช่วงเวลาดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3-4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ

เขาเผยว่า ช่วงเวลาดังกล่าวจะมีการนำเสนอแคมเปญพิเศษตลอด 12 วัน โดยในแต่ละวันจะแบ่งออกเป็นแคมเปญธีม ตามประเภทต่างๆ ดังต่อไปนี้ 1.ตามกลุ่มสินค้า 2.ตามโปรโมชั่น และ 3.ตามกลุ่มผู้ใช้งาน นอกจากความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำ ครั้งนี้ช้อปปี้ยังมุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยในไทย เพื่อผลักดันธุรกิจให้เติบโตในโลกออนไลน์ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เปิดโอกาสให้ธุรกิจรายย่อยของคนไทยสามารถขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ พบกับสินค้าเอสเอ็มอี 99 ชนิด จากทั่วประเทศ