PCSGH - ซื้อ

PCSGH - ซื้อ

การดาเนินงานในประเทศเป็นตัวนาทาง

เราคาดกำไรในครึ่งหลังของปี 2561 เติบโตต่อเนื่อง หนุนโดยการดำเนินงานในประเทศที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะกลบผลกระทบจากการขาดทุนในระยะกลางจากการเข้าซื้อโรงงานในยุโรปของ PCSGH โดยคำสั่งซื้อชิ้นส่วน EV รวมถึงลูกค้าใหม่ที่ได้จากการเข้าซื้อโรงงานของ Küpper Gruppe จะหนุนการเติบโตระยะยาว เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

การดำเนินงานในประเทศยังแข็งแกร่ง

ยอดขายในครึ่งแรกของปี 2561 เติบโต 14% YoY เราคาดครึ่งหลังยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับรถปิคอัพขนาด 1 ตัน (ชิ้นส่วนประกอบสำหรับรถปิคอัพคิดเป็น 97% ของยอดขาย) โดยอุปสงค์ที่เติบโตในครึ่งหลังปี 2561 สำหรับรถปิคอัพได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของ GDP รายได้ภาคเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้องกับราคาพืชผลที่สูงขึ้น เราประมาณการยอดขายในประเทศเติบโต 10% YoY ในครึ่งหลังปี 2561 นอกจากนี้ PCSGH อยู่ในระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตรถยนต์ประเทศญี่ปุ่นในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (ดังนั้นอาจมีอัพไซต์ต่อประมาณการรายได้ของเรา)

อัตรากำไรขั้นต้นสำหรับการดำเนินงานในประเทศขยายตัวขึ้นจาก 19.9% ในไตรมาส2/60 มาอยู่ที่ 22.4% ในไตรมาส2/61 (อัตรากาไรรวมลดลง YoY) เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หนุนโดยการประหยัดขนาด, ต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ รวมทั้งโครงการหลังคาไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 3 เมกะวัตต์ ที่จะเริ่มดำเนินการในไตรมาส4/61 ซึ่งเราคาดว่าจะปรับลดต้นทุนไฟฟ้าลงประมาณ 15 ล้านบาทต่อปี 

การดำเนินงานในต่างประเทศจะฉุดกำไรสุทธิในระยะกลาง

PCSGH ได้รับมอบโรงงาน 3 แห่ง (จากทั้งหมด 4 แห่ง) ได้แก่ PWG และ PWH (โรงงานผลิตชิ้นส่วนหล่อรูปและขึ้นรูปจากในประเทศเยอรมนี) และ PWK (โรงงานผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมในประเทศฮังการี) จาก Küpper Gruppe ในไตรมาส2/61 โดยปัจจุบันมีการดำเนินงานเพียง 2 แห่ง คือ PWG และ PWH ซึ่งใช้ระบบกึ่งอัตโนมัติในสายการผลิตโดยมีหุ่นยนต์จำนวน 44 ตัว

การดำเนินงานในต่างประเทศขาดทุน 15 ล้านบาทในไตรมาส 2/61 เนื่องจากต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่ยังคงสูงอยู่จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 60% รวมถึงยังมีค่าใช้จ่ายพิเศษ (เช่น ค่าที่ปรึกษาและค่าประเมินสำหรับธุรกิจในต่างประเทศ) แต่เราคาดว่าค่าใช้จ่ายพิเศษจะปรับตัวลดลงในไตรมาสถัดไป นอกจากนี้อัตรากาไรขั้นต้นมีแนวโน้มขยายตัว หนุนโดยอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น (ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น) ต้นทุนบุคลากรและต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงและประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น ดังนั้น เราจึงคาดว่าการดำเนินงานในต่างประเทศโดยรวมจะพลิกกลับมาเป็นกำไรในไตรมาส 1/62

แนวโน้มกำไรในครึ่งหลังปี 2561

แม้ว่าการขาดทุนในต่างประเทศอาจฉุดกำไรสุทธิในครึ่งหลังปี 2561 ลงแต่การดำเนินงานในประเทศของ PCSGH จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง หนุนโดยยอดขายที่สูงขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว (การประหยัดขนาดและประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น) เราคาดกำไรสุทธิครึ่งหลังปี 2561 จะอยู่ที่ 356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% YoY