ในภาพใหญ่ตลาดมีอัพไซด์จากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอาจน้อยกว่าคาด

ในภาพใหญ่ตลาดมีอัพไซด์จากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอาจน้อยกว่าคาด

รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประจำวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.

โดยระบุว่า กรรมการเฟดหลายคนส่งสัญญาณว่า เฟดมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หากเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง          อย่างไรก็ตาม กรรมการบางส่วนได้แสดงความกังวลว่า ข้อพิพาทการค้าที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอาจจะทำให้มีการทบทวนเรื่องแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเมื่อเราประเมินร่วมกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ชะลอตัวลงตลอดส.ค. โดยลดจากระดับ 3% เหลือ 2.82% ขณะที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ (เมื่อดูจาก Dollar Index) ส่งสัญญาณอ่อนค่าลงสอดคล้องกัน ส่งสัญญาณว่าตลาดเริ่มประเมินเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยปีนี้เพียง 3 ครั้ง (จากเดิม 4 ครั้ง) ซึ่งเป็นบวกและเป็นอัพไซด์ต่อตลาด โดยทิศทางดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อกระแสเงินทุนและจิตวิทยาการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (EMs)

สำหรับหุ้นไทย ภาพยาวยังบวก ขณะที่ระยะสั้นอาจแกว่งตัวจากปัจจัยภายนอก อย่างสงครามการค้า ประเมิน SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1680-1725 จุด ก่อนยกตัวขึ้นในระดับที่สูงกว่า สนับสนุนโดยภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงอานิสงค์จากการเลือกตั้งที่คาดว่าจะอยู่ในกรอบครึ่งแรกของปี 2562 ส่งผลบวกต่อหุ้นเกี่ยวกับการบริโภคในประเทศ อาทิ BBL, SCB, ROBINS, BJC, PSH, AP, STEC ขณะที่ในระยะสั้นราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว เป็นจิตวิทยาบวกต่อกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี /กลุ่มโรงกลั่น เรามองเป็นการซื้อขายระยะสั้นจากค่าการกลั่นผ่านจุดต่ำสุดของปี และราคาหุ้นที่ปรับลดลงมากไป แต่คาดหุ้นไม่ทำ new high หลังผลการดำเนินงานผ่านจุดที่ดีที่สุดไปแล้ว / กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม อาจมีแรงเก็งกำไรจากการเยี่ยมชมพื้นที่ EEC ของนักธุรกิจจีน  และการลงนาม MOU 17 ฉบับ 24-25 ส.ค.

Investment Theme เพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่ม domestic plays รับแผนการเลือกตั้งที่ชัดเจน BBL, SCB, ROBINS, BJC, PSH, AP, STEC / หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, PSTC*, DTC*, EASTW* / ผลประกอบการกำลังจะผ่านจุดต่ำสุด KCE, HANA, TU, TK*, SVI / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล CPNREIT, CPN, PSH, AP, SPF

ภาพรวมกลยุทธ์: เลือกตัวเก็งกำไร โดยกลับมาให้น้ำหนักกับหุ้นกลุ่ม domestic plays มากขึ้น โดยเฉพาะ กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก รับเหมาฯ หากย่อตัวสู่บริเวณแนวรับ 1680-1660 มองเป็นโอกาสซื้อที่ดี // หุ้นแนะนำวันนี้ AEONTS*, VNT / เก็งกำไร DCC* (เป้า 2.80 ตัดขาดทุน 2.20)

แนวรับ 1690 / แนวต้าน : 1705-1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

ประเด็นการลงทุน

ทรัมป์เผชิญมรสุมทางการเมือง – ปธน.ทรัมป์เผชิญมรสุมทางการเมืองครั้งใหญ่ หลังผู้ใกล้ชิดถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ไล่ตั้งแต่ ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายความที่ยอมสารภาพผิดในคดีอาญาทั้ง 8 กระทง ซึ่งรวมถึง พอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการทีมหาเสียงของทรัมป์ เช่นกัน

ส่งออกก.ค.เพิ่ม8.27% โต 17 เดือนติด - ส่งออก ก.ค.พุ่ง 8.27% โตต่อเนื่อง 17 เดือนติด ส่วนยอดรวม 7 เดือนเพิ่ม 10.57% เผยตลาดส่งออกขยายตัวเกือบหมด ญี่ปุ่น อินเดีย อาเซียน CLMV โต 2 หลัก แต่สหรัฐฯ ลด 1.9% ติดลบครั้งแรกรอบ 21 เดือน เหตุเจอพิษขึ้นภาษี

ผลการดำเนินงานบจ. - ครึ่งแรกปี 61 บจ.มีกำไรรวม 550,852 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีหลังสดใส พร้อมถกหน่วยงานรัฐปิดความเสี่ยง

MOU กับจีน 17 ฉบับ – รัฐบาลเตรียมพร้อมต้อนรับคณะรัฐบาลจีนที่นำโดยหวัง หย่ง และคณะธุรกิจจีนกว่า 500 ราย เยือนไทยร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจฯ 24 ส.ค. ก่อนเยี่ยมชมพื้นที่ อีอีซี 25 ส.ค. ลุยลงนาม MOU รวม 17 ฉบับ ดันการเชื่อมโยงนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เชื่อม "อีอีซี" กับ One Belt One Road ของจีน

ประเด็นติดตาม: 23 ส.ค. สหรัฐ-จีน เจรจาการค้า/ 23-25 ส.ค. ประชุมการเงินประจำปีธนาคารกลางสหรัฐฯ / 24-25 ส.ค- นักธุรกิจจีนเยี่ยม EEC คาดลงนาม MOU 17 ฉบับ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)