ห้องข่าวกรุงเทพธุรกิจ | แบงก์ชาติเชื่อเศรษฐกิจไทยทั้งปีโตเกิน 4%

         เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในครึ่งปีแรกมีความท้าทายไม่ว่าจะเป็น วิกฤติการเงินตุรกี สงครามการค้า เข้ามากระทบจึงเป็นคำถามว่าครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้ต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งในมุมมองของแบงก์ชาติเชื่อว่าเศรษฐกิจมีความแรงทั้งนอกและใน พร้อมผลักดันให้การเติบโตทั้งปีระดับ 4 %

          ‘ดร.ดอน นาครทรรพ ’ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย เริ่มชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีปัจจัยบวกในประเทศยังผลักดันการเติบโตให้ต่อเนื่อง ปัจจัยความเสี่ยงในประเทศอยู่ในระดับต่ำ เสถียรภาพการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้คาดว่าจะยังคงรักษาการเติบโตในระดับ 4 % ต่อเนื่องใน 2 ปี จากปี2561-2562 ประเมินจีดีพีไทยไว้ที่ 4.4% และ 4.2% ตามลำดับ

ปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง การบริโภคในประเทศที่ฟื้นในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ก่อนหน้านี้การบริโภคไปกระจุกตัวเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้สูงมากกว่าผู้มีรายได้น้อยจนเกิดภาวะ เศรษฐกิจสองความเร็ว คือคนส่วนใหญ่ในประเทศรู้สึกว่าเศรษฐกิจยังไม่ดี ค้าขายย่ำแย่. สวนทางกับกลุ่มผู้มีรายได้สูงเป็นคนกลุ่มน้อยแต่มีกำลังซื้อสูงมีการบริโภคเติบโตต่อเนื่อง รู้สึกว่าการค้าขายดี เศรษฐกิจดีขึ้น

           ปัจจุบันทั้งกลุ่มผู้มีรายได้สูง รายได้ปานกลาง และรายได้น้อย มีการบริโภคฟื้นตัวดีขึ้นมาจากรายได้เกษตรที่เคยมีปัญหามีการเข้าไปช่วยเหลือจากภาครัฐ ด้วยการออกมาตรการต่างแต่ยังต้องใช้ระยะเวลากว่าจะฟื้นตัว ซึ่งข้อดีคือรัฐบาลรู้ถึงปัญหาจุดนี้ดี รู้ว่าประเทศไทยมีปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำด้านรายได้

อีกด้านหนึ่งคือการลงทุนเอกชนที่ดีขึ้นอย่างช้าๆ เฉลี่ยเติบโตปีละ 1% แต่ด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี. ซึ่งมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามมาทำให้เป็นความหวังหนึ่งเดียวของรัฐบาลที่เพิ่มการลงทุนจากภาคเอกชน

            อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้จีดีพีปรับตัวลดลงได้มาจากภายนอกทั้งสิ้น โดยเฉพาะสงครามการค้าที่สหรัฐดำเนินการกับจีนด้วยการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมตอนนี้ยังไม่มีผลกระทบมากต่อเศรษฐกิจไทย ยกเว้นจะมีการขึ้นภาษีกลุ่มในสินค้าออโต้ที่มีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์   หรือคิดเป็น 6 ล้านล้านบาท

หากสหรัฐดำเนินการจริงส่งผลทำให้เศรษฐกิจโลกหายไป 0.5 % และยังส่งผลมายังประเทศไทยทำให้จีดีพีหายไป 0.4-0.5% หรือเติบโตไม่ถึง 4% และการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตจนทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนยกเลิกห้องพักนั้นมองว่าจะสามารถฟื้นความเชื่อมั่นได้ภายใน 3 -6เดือน แต่หากเกินกว่านั้นมีผลต่อเศรษฐกิจไทยตามมา