'AECS' ให้กรอบดัชนี 1,680-1,718 จุด จับตาสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

'AECS' ให้กรอบดัชนี 1,680-1,718 จุด จับตาสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

"AECS" ประเมินหุ้นไทยผันผวนสูง ให้กรอบดัชนี ปรับกรอบเป็น 1,680-1,718 จุด จับตาการเจรจาด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ -จีน

บล.เออีซี (AECS) ประเมินหุ้นไทยผันผวนสูง ให้กรอบดัชนี 1,680-1,718 จุด แนะจับตาสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน การเจรจาด้านการค้า รอบที่ 4 เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและระงับความรุนแรงจากสงครามการค้าไม่ให้บานปลาย แนะนำกลยุทธ์ลงทุนหุ้นปันผลระหว่างเด่น ชู SPRC- ROJNA-LH-TSR-KCAR-SENA-PSH-MAJOR-QH-ANAN-SMPC-AH

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทย Technical View คาด SET Index แกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1,680-1,718 จุด เน้นน้ำหนักให้กับทางลงมากกว่า โดยช่วงต้นสัปดาห์คาดมีโอกาสรีบาวด์ทดสอบแนวต้าน 1,718 จุด

คาดนักลงทุนจะหันมาจับตาสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนมากขึ้น โดยแม้ช่วงสั้นตลาดจะได้รับแรงหนุนจากการที่นายลาร์รี่ คุตโลว์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินหน้าเจรจาด้านการค้ากับจีนรอบที่ 4 เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและระงับความรุนแรงจากสงครามการค้าไม่ให้บานปลาย โดยในวันที่ 22-23 ส.ค. จะส่งตัวแทนสหรัฐฯ ไปพูดคุยที่จีนเพื่อเตรียมปูทางสู่การจัดประชุมผู้นำระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายสี จิ้น ผิ้ง ในเดือน พ.ย.

อย่างไรก็ดีการเจรจาดังกล่าวถูกจัดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษีสินค้าจีนรอบใหม่มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันที่ 23 ส.ค. ตามที่นายโดนัลด์ ทรัมป์มีคำสั่งออกไปก่อนหน้านี้ ประกอบกับ USTR ยังคงเริ่มขั้นตอน Public Hearing ต่อการเก็บภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ 2 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดวันที่ 5 ก.ย. นี้

รวมทั้งจากการเจรจาครั้งก่อนสหรัฐฯ ได้ยื่นข้อเสนอที่มีเงื่อนไขค่อนข้างเข้มงวด ทั้งเรื่องที่ให้จีนเพิ่มสัดส่วนการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ และให้จีนแก้ปัญหาด้านการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจากบริษัทสหรัฐฯ ที่เข้าไปลงทุนในจีน ทำให้คาดการเจรจาจะเป็นไปอย่างลำบาก เราจึงยังแนะนำให้นักลงทุนคงความระมัดระวังต่อปัจจัยต่างประเทศและติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "ทยอยลดพอร์ต" หรือ "Selective Buy" ในหุ้นที่จ่ายปันผลระหว่างกาล โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทนราว2.1-3.8% ซึ่งขึ้นเครื่องหมายในช่วง 2 เดือนนี้เลือก SPRC (หุ้นละ 0.5928 บาท XD 27 ส.ค.), ROJNA (หุ้นละ 0.2 บาท XD 29 ส.ค.), LH (หุ้นละ 0.4 บาท XD 28 ส.ค.), TSR (หุ้นละ 0.08 บาท XD 28 ส.ค.), KCAR (หุ้นละ 0.4 บาท XD 28 ส.ค.), SENA (หุ้นละ 0.109757 บาท XD 28 ส.ค.), PSH (หุ้นละ 0.55 บาท XD 23 ส.ค.), MAJOR (หุ้นละ 0.65 บาท XD 29 ส.ค.), QH (หุ้นละ 0.08 บาท XD 24 ส.ค.), ANAN (หุ้นละ 0.115 บาท XD 22 ส.ค.), SMPC (หุ้นละ 0.3 บาท XD 23 ส.ค.) และ AH (หุ้นละ 0.7 บาท XD 29 ส.ค.)

ส่วนในทางเทคนิค กรณีมีหุ้นแนะขายทำกำไรแนวต้าน ไม่มีหุ้น รอซื้อเมื่อดัชนีย่อตัวและยืนแนวรับ ทั้งนี้กลุ่มที่คาด Outperform ตลาด เลือกกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ (FIN) โดยมี Top Pick ได้แก่ SAWAD , AEONTS , THANI