DSIขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนสิงคโปร์4ราย ตัวการโกงเทรดหุ้น1,000ล้าน

DSIขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนสิงคโปร์4ราย ตัวการโกงเทรดหุ้น1,000ล้าน

รองอธิบดีดีเอสไอเผยออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหาชาวสิงคโปร์ ตัวการใหญ่แชร์เทรดหุ้นอีเกิ้ลเกทส์ จ่อประสานขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เผยตั้งแก๊งตุ๋นข้ามชาติ ลวงนักลงทุน ไทย-ฮ่องกง-มาเก๊า-มาเลย์ เงินหมุนเวียนนับ 1,000 ล้านบาท

พร้อมขยายผลฟอกเงินเอาผิดนอมินีที่มีชื่อรับโอนเงิน ขณะที่ดาราชาวอเมริกันอ้างรับจ้างแสดงเป็นซีอีโอให้สมจริงไม่ได้ร่วมขบวนการตุ้มตุ๋น แต่ดีเอสไอไม่เชื่อนำตัวไปฝากขัง

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) - 22 ส.ค.61 พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าคดีฉ้อโกงประชาชนจาการหลอกลวงให้ร่วมลงทุนแชร์เทรดหุ้น บริษัท อีเกิ้ลเกสท์ กรุ๊ป จำกัด ว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายเดอร์ริค แมทธิว เคเลอร์ สัญชาติอเมริกัน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในคดีฉัอโกงประชาชน แชร์เทรดหุ้นอีเกิ้ลเกทส์ ไปฝากขังที่ศาลอาญา จากการสอบปากคำเบื้องต้นนายเดอร์ริคปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว โดยระบุว่ามีอาชีพเป็นนักแสดงและรับจ้างรีวิวสินค้า

ต่อมาได้รับการติดต่อจากบริษัทอีเกิ้ลเกสท์ฯว่าจ้างให้แสดงเป็นซีอีโอ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและชักจูงนักธุรกิจให้มาร่วมลงทุน โดยมีการจัดเตรียมสคริปต์พร้อมบทให้เพื่อสัมภาษณ์กับนักข่าวซีเอ็นเอ็นปลอม นอกจากนี้ยังจัดหาเฮลิคอปเตอร์เพื่อเปิดตัวซีอีโอเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท แต่พนักงานสอบสวนยังไม่เชื่อคำให้การเนื่องจากมีหลักฐานว่านายเดอร์ริค เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดเชื่อมโยงกับตัวการใหญ่ชาวสิงคโปร์ จำนวน 4 ราย ที่มีพฤติการณ์หลอกลวงนักลงทุนในประเทศ จีน ฮ่องกง มาเก๊า มาเลเซีย และไทย ให้เข้าร่วมลงทุน

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายในคดีดังกล่าวเป็นนักลงทุนที่มีฐานะและการศึกษาดี แต่ถูกหลอกเพราะเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติใช้วิธีการซึ้อหัวบริษัทร้าง ที่จดทะเบียนทิ้งไว้ในประเทศสหรัฐอเมริกานานกว่า 10 ปี แต่ไม่ได้มีผลประกอบการจริง และจัดทำหน้าเว็บไซต์ คลิปวีดีโอปลอมการรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่าบริษัทมีผลประกอบการดี แม้แต่สถานี โทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ซึ่งเป็นสื่อระดับโลกก็ยังต้องมาสัมภาษณ์ และยังมีการจัดการเปิดตัวบริษัทอย่างยิ่งใหญ่ อลังการ ที่โรงแรมรอยัลคลิปบีช พัทยา โดยอุปโลกน์ให้นายเดอร์ริคนั่งเฮลิปคอปเตอร์มาลงในงาน มีการจัดเลี้ยงริมสระน้ำ และมีคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง

กลุ่มคนร้ายได้จัดทำแผนการตลาดเพื่อชักจูงนักลงทุนถึง 4 แพคเกจ โดยให้ลงทุนขั้นต่ำตั้งแต่ 1,000 เหรียญดอลล่าร์ 5,000 เหรียญ 10,000 เหรียญและ 50,000 เหรียญ โดยให้ผลตอบแทน 3 เปอร์เซ็นต์ 6 เปอร์เซ็นต์ และ9 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ส่วนผู้ลงทุนรายใหญ่ตั้งแต่ 1,850,000 บาทจะได้ปันผล 10-15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้รับผลประโยชน์จริงในช่วงแรก โดยเงินปันผลจะจ่ายเป็นเงินสกุลดิจิทัลคล้ายบิทคอยส์ เห็นตัวเลขในจอคอมพิวเตอร์ และถอนเงินออกไม่ได้ เว้นแต่จะมีผู้ลงทุนใหม่มาซื้อเหรียญดิจิทัล ทำให้มีผู้เสียหายถึง 250 ราย มูลค่าความเสียหาย 235 ล้านบาท และพบว่าบริษัทดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 1,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาดีเอสไอได้อายัดบัญชีทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่มีเงินติดบัญชีมามาก เนื่องจากผู้ต้องหาได้ยักย้ายถ่ายเทไปยังนอมินีทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ดีเอสไอจึงเร่งพิสูจน์ถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหาในต่างประเทศโดยประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศต่างๆเพื่อขอตัวผู้ต้องหาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน และขยายผลฟอกเงินไปยังผู้ที่มีชื่อโอนและได้รับโอนเงินจากอีเกิ้ลเกสท์ฯ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าว

ด้านพ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ ผอ.กิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้เข้าองค์ประกอบเป็นขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ เนื่องจากมีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน ดำเนินการเป็นขั้นตอน ในทุกประเทศที่เข้าไปหลอกลวงจะมีพฤติการณ์เดียวกัน โดยตัวการใหญ่ชาวสิงคโปร์จะเข้าไปหาแม่ข่ายในประเทศนั้น เพื่อชักชวนนักธุรกิจมาร่วมทุน เช่นที่ไทยจะมีผู้ร่วมขบวนการถึง 23 คน ซึ่งถูกออกหมายจับทั้งหมดแล้ว จับกุมผู้ต้องหาคนไทยได้ 12 คน และคนต่างชาติ 1 คน ส่วนตัวการใหญ่ชาวสิงค์โปร์ขณะนี้ได้ออกหมายจับแล้วและอยู่ระหว่างประสานข้อมูลกับต่างประเทศเพื่อพิสูจน์ทราบถิ่นที่อยู่และขอให้ส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป