แกนนำนปช.ขึ้นศาลคดีก่อการร้าย คาดสืบพยานและพิพากษาปลายปี62

ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลนัดพร้อมคู่ความเพื่อกำหนดนัดสืบพยานจำเลย ฟ้องแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย ในคดีหมายเลขดำ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีต ปธ.นปช. , นายจตุพรหรือตู่ พรหมพันธุ์ ปธ.นปช. , นายณัฐวุฒิหรือเต้น ใสยเกื้อ , นพ.เหวง โตจิราการ , นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กับพวกซึ่งเป็นแกนนำ นปช.รวม 24 คน เป็นจำเลยที่ 1-24 ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย , ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา ให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และร่วมกันชุมนุม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กรณีร่วมชุมนุมต่อเนื่องตั้งวันที่ 28 ก.พ. - 20 พ.ค.53 เพื่อกดดันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ประกาศยุบสภา

โดยวันนี้นายจตุพร ปธ.นปช. และกลุ่มแกนนำ นปช. เดินทางมาศาล ขาดเพียงนพ.เหวงที่ไม่ได้เดินทางมาศาล เพราะมีอาการป่วยปอดอักเสบ อยู่ระหว่างการรักษาตัว อย่างไรก็ดี เมื่อถึงเวลานัด ทนายความจำเลยได้แถลงว่า จะขอรวบรวมรายละเอียดและข้อเท็จจริงเพื่อเป็นเอกสารประกอบการสืบพยานจำเลย โดยขอให้ศาลนัดสืบพยานจำเลยในช่วงเดือน ก.พ.62 ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ รับฟังเป็นที่ยุติแล้วว่ามีการชุมนุมทางการเมืองจริง เพียงแต่จะต้องพิจารณาว่าเป็นการชุมนุมด้วยจุดประสงค์อะไร

นอกจากนี้ในส่วนของเหตุร้ายต่างๆ ก็มีการดำเนินคดีไปเกือบหมดแล้ว ศาลจึงเห็นควรให้ฝ่ายจำเลยไปรวบรวมรายละเอียดเพื่อจะเป็นพยานเอกสารหลักฐานประกอบการสืบพยานจำเลย โดยศาลกำหนด ให้สืบพยานจำเลย รวม 10 นัด ตั้งแต่เดือน ก.พ.62 เป็นต้นไป โดยนัดสืบพยานจำเลยนัดแรกวันที่ 21 ก.พ.62 และเมื่อการดำเนินการสืบพยานจำเลยไปครบกำหนดแล้ว หากมีความจำเป็นที่จะต้องสืบพยานเพิ่มเติม ศาลก็จะพิจารณาตามความเหมาะสมอีกครั้ง โดยศาลเห็นว่าที่ผ่านมาคดีนี้ได้มีการสืบพยานมาเยอะแล้ว ซึ่งศาลจะดำเนินการสืบพยานจำเลยให้เสร็จสิ้นเพื่อจะพิพากษาภายในเดือน ก.ย.62 ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนพิจารณา

"นายจตุพร" ปธ.นปช. กล่าวว่า คดีนี้การสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นไปแล้ว ยังเหลือการสืบพยานฝ่ายจำเลย วันนี้ศาลได้นัดให้เตรียมเอกสารประกอบการสืบพยานจำเลยในวันที่ 21-22 ก.พ. และเดือน มี.ค., เม.ย.62 แล้วหลังจากนั้นศาลก็อาจจะพิจารณาเพิ่มอีกครั้ง จำเลยทั้งหมด 24 คนจะต้องขึ้นเบิกความทุกคน ส่วนพยานจำเลยอื่นๆ ก็อยู่ที่ศาลจะพิจารณาเห็นชอบ ส่วนที่ นพ.เหวง ไม่ได้มานั้น ป่วยอาการค่อนข้างหนักร่วม 3 สัปดาห์แล้ว แพทย์ให้กลับบ้านมาอยู่ระหว่างการพักฟื้นรักษาตัวแต่อาการก็ยังไม่ค่อยดี เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ การต่อสู้คดีเป็นเรื่องที่ยากลำบากทั้งในปัจจุบันและอนาคต ต้องมีสติ สมาธิ และจิตใจที่เมตตา จึงจะผ่านพ้นไปได้ “ทุกเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตล้วนแต่หนักทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าถ้าเรารู้ว่าเราได้ทำอะไร และสิ่งที่เราทำไม่ได้ทำเพื่อตัวเราเอง แต่ทำเพื่อคนอื่น ความทุกข์ก็จะลดลง แต่ก็ยังเป็นหนทางที่ยากลำบากอยู่ นอกจากจะยากลำบากแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะยังยากมากขึ้นถ้าเราไร้ซึ่งสมาธิ” นายจตุพร กล่าว