“ไอฟลิกซ์” โหมกลยุทธ์ชิงตลาดวีดิโอสตรีมมิ่งประเทศไทย เปิดตัวโปรแกรมใหม่ “ไอฟลิกซ์ ฟรี" ชิงฐานลูกค้า พร้อมเล็งเพิ่มคอนเทนท์ภาษาไทย คลิปวีดิโอสั้น สร้างความหลากหลาย มั่นใจตลาดมีโอกาสขยายตัวได้สูง ตั้งเป้าสิ้นปีมีลูกค้าใช้งานประจำทะลุ 2 ล้านราย
นางสาวอาทิมา สุรพงษ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอฟลิกซ์ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจของไอฟลิกซ์ครึ่งปีหลังยังคงเน้นการขยายฐานลูกค้าให้มีมากขึ้น กลยุทธ์เน้นด้านคอนเทนท์ พยายามทำให้มีความหลากหลายมากที่สุด ครอบคลุมลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย ขณะเดียวกันต้องมีความสะดวกในการใช้งาน ราคาสมเหตุสมผล พร้อมผลักดันการเติบโตด้วยการเข้าไปร่วมมือกับพันธมิตรที่ต้องการนำคอนเทนท์ไปใช้ส่งเสริมการตลาด
ล่าสุด กระตุ้นให้มีผู้สนใจมาใช้งานมากขึ้นเปิดตัวโปรแกรมใหม่ให้ลูกค้ารับชมได้ฟรี “ไอฟลิกซ์ ฟรี(iflix Free)” แลกกับการรับชมโฆษณา ปัจจุบันคอนเทนท์ที่ดูได้ฟรีมีสัดส่วน 1 ใน 3 ของคอนเทนท์ทั้งหมด ขณะนี้โมเดลการโฆษณามีอยู่ด้วยกัน 4 ประเภทประกอบด้วย แบบแบนเนอร์ ฟีด เหมารวมในหมวดหมู่ และก่อนรับชมคอนเทนท์ บริษัทตั้งเป้าไว้ว่า ในระยะยาว 3 ปีรายได้ที่มาจากการโฆษณาจะมากกว่าค่าสมาชิก
ปัจจุบัน ไอฟลิกซ์มีลูกค้าสนใจเข้ามาลงทะเบียนใช้งานกว่า 2 ล้านราย ทว่าจำนวนที่แอคทีฟมีอยู่ราว 1 ล้านราย จบปีนี้คาดว่าจะมีผู้ใช้ที่แอคทีฟไม่น้อยกว่า 2 ล้านราย 6 เดือนที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยแต่ละเดือนลูกค้าที่เข้ามาใช้งานเติบโตเป็นเท่าตัว
“เรามีคอนเทนท์ให้บริการกว่า 4 หมื่นชั่วโมง พันธมิตรสตูดิโอกว่า 300 ราย เฉพาะจากไทยมีอยู่ 50 ราย หรือราว 1,000 ชั่วโมง และปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 20 ราย ที่จะเน้นคือคลิปสั้นความยาว 5-10 นาที”
ไอฟลิกซ์เผยว่า ช่วงเวลาที่ลูกค้าไทยนิยมเข้ามาสูงสุดคือวันสุดสัปดาห์และช่วงเทศกาลต่างๆ ด้านอุปกรณ์ที่นิยมโมบายและแทบเล็ต 69% เว็บไซต์ 20% ทีวี 11% แบ่งตามระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 72% แอ๊ปเปิ้ลไอโอเอส 28% โดยเฉลี่ยต่อคนรับชม 124 นาทีต่อวัน 2.5 วันต่อสัปดาห์
ปัจจุบัน ในตลาดผู้ให้บริการวีดีโอสตรีมมิ่งด้วยกันไม่รวมไลน์กับยูทูปไอฟลิกซ์ครองอันดับท็อป 2 ของตลาด แต่หวังไว้ว่าจะเป็นเบอร์ 1 ในทุกตลาดที่เข้าไปให้บริการ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของตลาดด้วย ด้านคู่แข่งไม่ใช่ผู้เล่นด้วยกัน แต่เป็นคอนเทนท์ละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งข้อมูลโดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาระบุว่า คนไทยรับชมวิดีโอละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมากกว่าวีดิโอของผู้เล่นที่ถูกกฎหมายรวมถึง 3.85 เท่า
“ที่ผ่านมาคอนเทนท์จากทุกเจ้ารวมกันยังไม่ถึงครึ่งของเถื่อนด้วยซ้ำ ดังนั้นเราจึงพยายามทำราคาให้ดีที่สุด ด้วยค่าบริการเดือนละ 100 บาท ปีละ 1,000 บาทเพื่อดึงคนเข้ามาให้มากที่สุด และล่าสุดเปิดให้ดูฟรีดังกล่าว”
พร้อมประเมินว่า ภาพรวมการแข่งขันตลาดวีดิโอสตรีมมิ่งประเทศไทยทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายค่อนข้างดุเดือด จากปัจจัยที่ผู้บริโภคนิยมชมคอนเทนท์บันเทิง อินฟราสตรักเจอร์ เครือข่ายมีความพร้อม อีกทางหนึ่งดีไวซ์ราคาถูกลงต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย และนับว่าไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้เล่นต่างชาติให้ความสนใจ เบื้องต้นการใช้เวลาดูวีดิโอออนไลน์ของคนไทยเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักทุกปี สำหรับผู้เล่นจะอยู่รอดได้จำต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับความต้องการของตลาด ลองผิดลองถูกจนกว่าจะตรงกับความต้องการ