ราคาน้ำมันดิบทะยานกว่า 1%

ราคาน้ำมันดิบทะยานกว่า 1%

ทะลุ 67 ดอลลาร์เพราะแรงหนุนจากคาดการณ์ภาวะน้ำมันตึงตัว

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันอังคาร (21ส.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 1.4% เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ภาวะน้ำมันตึงตัวจากการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน แต่ราคาน้ำมันยังคงถูกจำกัดจากการที่ประเทศนอกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพิ่มการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์  เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.4%  ปิดตลาดที่ 67.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 51 เซนต์ ปิดตลาดที่ 72.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ทะยานขึ้น 2% จากระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ ที่ทำไว้ในวันพฤหัสบดีที่แล้ว หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีในวันที่ 6 ส.ค.เพื่ออนุมัติมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ โดยสหรัฐจะรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรต่อภาคการเงินและอุตสาหกรรมของอิหร่าน

มาตรการที่สหรัฐใช้คว่ำบาตรอิหร่านดังกล่าว ถือเป็นมาตรการรอบแรก ก่อนที่สหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรรอบ 2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งจะพุ่งเป้าไปยังการทำธุรกรรมของธนาคารกลาง การส่งออกน้ำมัน และการขนส่งสินค้าทางเรือของอิหร่าน

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 600,000-1,500,000 บาร์เรล

อย่างไรก็ดี นักลงทุนกังวลว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมัน ล่าสุด ทางการจีน ยืนยันว่า คณะผู้แทนของจีนจะเดินทางไปยังสหรัฐเพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า โดยการเจรจาจะมีขึ้นในวันที่ 22-23 ส.ค. ซึ่งวันที่ 23 ส.ค.จะเป็นวันที่สหรัฐจะใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์