ปรับตัวขึ้นเป็นจังหวะขาย

ปรับตัวขึ้นเป็นจังหวะขาย

SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้น ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่สดใส

สำหรับGDP 2Q61 ที่เติบโตกว่า 4.6% หนุน 1H61 โตกว่า 4.8% พร้อมทั้งยืนยันเป้าการเติบโตทั้งปีที่ราว 4.2-4.7% นอกจากนี้ ยังเกิดแรงซื้อกลับเข้ามาในกลุ่ม Big Cap. นำโดย  PTT BDMS SCC ADVANC และ AOT ภาพรวม SET Index ปิดที่ 1,701.42 จุด (+11.38 จุด) Volume 4.5 หมื่ลบ. จาก Foreign Net -426.23 ลบ. TFEX Net +4,106 สัญญา ตราสารหนี้ -378 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ จะสามารถคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าได้

+น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากนักลงทุนกังวลต่อภาวะอุปทานขาดแคลน หลังมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯที่กำหนดต่ออิหร่านจะมีผลบังคับใช้ใน พ.ย.

+ประธานเฟดแอตแลนตาคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ และอีก 3 ครั้งในปีหน้า

+สภาพัฒน์เผย GDP 2Q61 +4.6%YoY +1%QoQ 1H61 GDP +4.8%

+ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ก.ค.61 ที่ 93.2 จาก 91.7 ในมิ.ย.

+นทท.ต่างชาติ 7 เดือนแรกปี 61 เพิ่มขึ้น 11% มาที่ 22.6 ล้านคน (นักท่องเที่ยวจีนปรับลดลงเพียง 1%YoY โดยยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของไทยคิดเป็นสัดส่วน 29%)

-ผู้ว่าแบงก์ชาติลั่นมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวดี (ที่มา ข่าวหุ้น)

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.89 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.92 บาท/US

*จับตาวันนี้ก.พาณิชย์แถลงตัวเลขส่งออก-นำเข้า / สัปดาห์นี้สหรัฐ-จีนเจรจาการค้า

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศปิดบวกจากความหวังในการเจรจาสหรัฐ-จีนรอบใหม่  ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น และตัวเลข GDP 2Q61 ที่สดใส แต่มีปัจจัยกดดันจากมุมมองความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยของผู้ว่าแบงก์ชาติ  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,690-1,710 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   

- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE XO CPF SSP

- ค่าการกลั่นเริ่มปรับตัวขึ้น SPRC IRPC TOP BCP

- ROBINS HMPRO BEM ครม.คง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี

- KCE SVI CPF GFPT กลุ่มส่งออก ค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ 32.92  บาท/US

หุ้นแนะนำพิเศษ

GPSC Analyst meeting ผลประกอบการ 2H61 อาจชะลอตัวแต่ระยะยาวเติบโตจากการควบรวม GLOW

- การเข้าซื้อ GLOW มองเป็นโอกาสในการขยายกำลังการผลิตในธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP ซึ่งโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ของ GLOW ตั้งอยู่ในนิคมมาบตามพุดเช่นเดียวกับ GPSC ทำให้เกิดการ Synergy ในการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่น (Reliability) ในการจ่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้า โดยดีลดังกล่าวจะใช้เงินกู้ระยะสั้นจากกลุ่มปตท. 3.5 หมื่นล้านบาทและเป็นเงินกู้ระยะสั้นจากธนาคาร 1.05 แสนล้านบาท ภายหลังจะเพิ่มทุน 7.4 หมื่นล้านบาทและออกหุ้นกู้และกู้เงินระยะยาวอีก 6.85 หมื่นล้านบาท

-โครงการก่อสร้างน้ำลิกอาจCODได้เร็วกว่าคาด 1 ไตรมาสเนื่องจากก่อสร้างแล้วเสร็จแล้วกว่า 93% ด้านไซยะบุรี CUP4 และโรงไฟฟ้านวนครยังเป็นไปตามแผน โดยคาดว่าจะ COD 4Q61 3Q61 และ 3Q62 ตามลำดับ นอกจากนี้บริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าในโครงการ CFP ของ TOP ขนาด 250 MW เพิ่มเติม

- ความเห็น คาดกำไร 2H61 จะอ่อนตัวลงจากราคาขายที่ทรงตัวตามค่า Ft แต่ต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ(เป็นสัดส่วนราว 85% ของต้นทุน)จะปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน นอกจากนี้ 4Q61 จะมีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ของโรงไฟฟ้าศรีราชา อย่างไรก็ตามในระยะยาวเรามีมุมมองบวกต่อ GPSC หลังซื้อ GLOW เนื่องจากจะมีการ Synergy ระหว่างกัน

หุ้นมีข่าว   

·        + AOT คาดออก TOR เชิญชวนประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ ก.ย.นี้,มั่นใจงวดปี 61 รายได้-กำไรทำนิวไฮ

·        + NYT ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ก.ค.61 โต 0.15% มาที่ 90,151 คัน, ปรับเพิ่มเป้าผลิตทั้งปี

·        ประเด็นบวกลุ่มรับเหมา บอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ไฟเขียวร่างสัญญาแก้ไข RTA แล้ว โอนรายได้ในอนาคต 45% ให้กับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เตรียมยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต.ภายในสัปดาห์นี้ เปิดขายเดือน ก.ย. ราคาสูงกว่า 11-12 บาทต่อหน่วย เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูง ระดับ 6-7% หลังสถาบัน ประกัน กองทุนสนใจเป็นจำนวนมาก(ที่มา ข่าวหุ้น)

·        TMB (ราคาปิด 2.16 Bloomberg Consensus 2.60) ชี้แจงข้อมูลเรื่องการทำธุรกรรมและการลงทุนในประเทศตุรกีว่า ไม่มีการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือตราสารหนี้ของบริษัทในตุรกี ธนาคารมีธุรกรรมกับธนาคารใหญ่ใน 5 อันดับแรก ลูกค้าที่มีธุรกรรม L/C discounting มีสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของเงินให้สินเชื่อของธนาคาร โดยยังเป็นสินเชื่อจัดชั้นปกติและจะถึงกำหนดชำระในเดือนต.ค. 61 (ที่มา SET NEWS)

·        ความเห็น TMB รายงานยอดเงินให้สินเชื่อสุทธิ ณ 31 ก.ค. 61 เท่ากับ 621,636 ล้านบาท  ดังนั้น ยอดธุรกรรม L/C discounting  1% อยู่ที่ราว 6 พันล้านบาท  ซึ่งต้องติดตามใกล้ชิดว่าจะเป็น NPL หรือไม่

·        CPN (ราคาปิด 79.25 Bloomberg Consensus 86.95) แนวโน้มผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลังของปี 2561 มีโอกาสเติบโตดีกว่างวดครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 18,171.52 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5,757.71 ล้านบาท เนื่องจากมีแผนเปิดศูนย์การค้าใหม่ในครึ่งปีหลังของปี 2561 จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลภูเก็ต จะเปิดวันที่ 10 ก.ย. 2561 และ เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งบริษัทถือหุ้น 60% และ I-R&D Sdn.Bhd. ถือหุ้น 40% คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 4/2561 และเตรียมเปิดโฉมใหม่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ภายในปี 2561

·        และมีกระแสข่าวว่า เตรียมทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ของบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND จากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ GLAND โดยกำหนดราคารับซื้อ 3.50 บาทต่อหุ้น โดยมีธนาคารกรุงเทพ (BBL) เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินในการปล่อยกู้ให้กับทาง CPN เพื่อรองรับการทำเทนเดอร์ฯ หุ้น GLANDดังกล่าว(ที่มา ข่าวหุ้น)

·        ความเห็น จากการสอบถามไปยัง IR ของ CPN ยืนยันดีลเทนเดอร์ GLAND ยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด  ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวที่รายได้และกำไรมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 12,038 ลบ. เติบโต 22% จากกำไรปกติ 9,893 ลบ.ในปี 60