พณ. เตรียมเปิดประมูลข้าวที่ไม่ใช่คนบริโภคล็อตสุดท้าย 2.45 แสนตัน

นางมนัสนิตย์ จิรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และในฐานะรองประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐ เปิดเผยว่า กรมฯเตรียมเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ปริมาณ 2.45 แสนตัน และเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ปริมาณ 2.23 หมื่นตัน เป็นครั้งสุดท้ายในปี 2561 โดยเงื่อนไขการประมูลยังเป็นเช่นเดียวกับการเปิดประมูลข้าวในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งหากภายหลังพบว่าผู้เสนอซื้อรายใดขาดคุณสมบัติ จะถือว่าผู้เสนอซื้อรายนั้นขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้น และไม่สามารถยื่นเสนอซื้อข้าวในสต๊อกของรัฐได้

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการประมูลข้าวในครั้งนี้จะขายได้หมด เนื่องจากการประมูลที่ผ่านมามีผู้สนใจเข้าเสนอซื้อเป็นจำนวนมาก และการประมูลครั้งนี้น่าจะขายข้าวได้หมด ส่วนการพิจารณาขายข้าวในครั้งนี้ก็จะพิจารณามากขึ้นโดยเฉพาะข้าวที่ไม่เคยถูกเสนอเสนอ ราคาสูง ปริมาณคงเหลือน้อย หรือข้าวเหนียวเสนอเข้ามาน้อย หากเก็บไว้นานก็อาจจะเป็นภาระ ก็อาจจะต้องนำเข้าสู่คณะอนุกรรมการระบายฯ พิจารณาว่าจะระบายข้าวกลุ่มนั้น ออกหรือไม่ เพราะรับว่าการเปิดประมูลข้าวครั้งนี้ น่าจะเป็นล๊อตสุดท้ายแล้ว ขณะที่ ราคาก็เชื่อว่าน่าจะได้ราคาดี เพราะที่ผ่านมา ข้าวกลุ่ม 2 เสนอซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 5,587 บาทต่อตัน ข้าวกลุ่ม 3 เสนอซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 3,449 บาทต่อตัน เมื่อได้ผู้เสนอซื้อสูงสุดก็จะเสนอเข้าคณะทำงานพิจารณา ตามลำดับขั้นตอนต่อไป

สำหรับการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/2561 ปริมาณข้าวที่นำมาเปิดประมูล 2.45 แสนตัน จำนวน 18 คลัง ใน 8 จังหวัด เป็นคลังของ อคส. จำนวน 8 คลัง ปริมาณ 1.20 แสนตัน และเป็นคลังของ อ.ต.ก. จำนวน 10 คลัง ปริมาณ 1.25 แสนตัน ประกอบด้วยข้าว 6 ชนิด ได้แก่ ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 15% ข้าวปทุมธานี ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนปทุมธานี และปลายข้าว A1 เลิศ โดยจะ เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าดูสภาพข้าวในคลังสินค้า วันที่ 20 – 24 สิงหาคม 2561 เวลา 09.00 – 16.00 น. และ วันจันทร์ ที่ 27 สิงหาคม 2561 จะเปิดให้ยื่ซองคุณสมบัติ และวันพุธที่ 29 สิงหาคม 2561 จะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติและวันเดียกันก็จะเปิดให้ยื่นซองเสนอซื้อต่อไป

ส่วนการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 2/2561 ปริมาณข้าวที่นำมาเปิดประมูล 2.23 หมื่นตัน จำนวน 20 คลัง ใน 13 จังหวัด เป็นคลังของ อคส. จำนวน 13 คลัง ปริมาณ 1.59 หมื่นตัน และเป็นคลังของ อ.ต.ก. จำนวน 7 คลัง ปริมาณ 0.64 หมื่นตัน ประกอบด้วยข้าว 10 ชนิด ได้แก่ ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 15% ข้าวปทุมธานี ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมจังหวัด ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าวหอมจังหวัด ปลายข้าว A1 เลิศ และปลายข้าว A1 โดยเปิดให้ผู้สนใจเข้าดูสภาพข้าวในคลังสินค้า วันที่ 20 – 24 สิงหาคม 2561 เวลา 09.00 – 16.00 น. วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2561 จะเปิดให้ยื่นซองคุณสมบัติ และวันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2561 จะประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติและวันเดียกันก็จะเปิดให้ยื่นซองเสนอซื้อ ต่อไป

นางมนัสนิตย์กล่าวอีกว่า สำหรับการประมูลข้าวครั้งนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อตลาด และการส่งออกข้าวและเชื่อว่าจะสามารถขายได้หมด ขณะที่การส่งออกข้าว ณวันที่ 1 มกราคม 2561 ถึง 16 สิงหาคม 2561 ส่งออกไปแล้ว 7.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.6% มูลค่าอยู่ที่ 3,577 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20% ขณะที่ ราคาข้าวขาว เฉลี่ยสูงขึ้น 503 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 431 เหรียญสหรัฐต่อตัน นอกจากนี้ การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ จะมีที่ติดตาม คือ ฟิลิปปินส์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลในเดือนกันยายน 2561 ปริมาณ 2.5 แสนตัน โดยจะนำเข้าในเดือนตุลาคม

ทั้งนี้ การขายข้าวกับจีน กรมฯอยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียด ซึ่งจะเร่งทำสัญญาซื้อขายข้าว แสนที่ 6 และทำสัญญาซื้อขายข้าว ล้านที่ 2 ซึ่งจะหารือในการประชุมร่วมเจรจาการค้า ไทย-จีนที่จะถึงนี้ ส่วนข้อมูลสำหรับการทำสัญญาส่งมอบ ซื้อขายข้าวระหว่างองค์การคลังวสินค้า หรือ อคส. และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อตก. และเอกชนที่ชนะประมูล อยู่ที่ 14.152 ล้านตัน สามารถส่งมอบข้าวไปแล้ว 12.412 ล้านตัน คงเหลือที่อยู่ระหว่างการรับมอบ และไม่มารับมอบ ปัญหาเรื่องคุณภาพของข้าว อยู่ที่ 1.463 ล้านตัน โดยแบ่งเป็น ของอคส. 1.159 ล้านตัน และ อตก. 0.304 ล้านตัน