ขอครม.500ล้าน งบฯพัฒนาศูนย์เฝ้าระวังผู้ประสบภัยทางทะเล

ระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคม 2561 จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่จังหวัดระนองและชุมพร ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้เตรียมเสนองบประมาณเพื่อใช้ในการพัฒนาศักยภาพศูนย์เฝ้าระวังและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล แบบบูรณาการจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยวประกอบกับในส่วนช่วงที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุทางทะเลกับนักท่องเที่ยวบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อวันที่5กรกฎาคม2561มีเหตุเรือท่องเที่ยวชื่อฟินิกซ์ล่ม ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตมากถึง47คน และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก

นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.สัญจรดังกล่าว ทางจังหวัดภูเก็ตได้เตรียมเสนอของบประมาณดำเนินการโครงการเพิ่มศักยภาพศูนย์เฝ้าระวังและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล แบบบูรณาการ จังหวัดภูเก็ต (Marine Surveillance and Assistance Center : Phuket Province )ด้วยงบประมาณกว่า500ล้านบาท โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของศูนย์ควบคุมเรือยอช์ต จังหวัดภูเก็ต อยู่ภายใต้การดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต(อบจ.ภูเก็ต) ตั้งอยู่ภายในท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ให้เป็นศูนย์ที่มีศักยภาพในการเฝ้าระวังและให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุทางทะเลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“งบประมาณที่เสนอขอดังกล่าว เป็นการของบประมาณเพิ่มเติมจากในส่วนของ อบจ.ภูเก็ต ซึ่งได้เสนอของบประมาณจากสภา อบจ.ภูเก็ต ในการปรับปรุงพัฒนาท่าเทียบเรืออ่าวฉลองเป็นการขอใช้งบประมาณเหลือจ่ายตั้งแต่ปี2560เป็นต้นมา จำนวน144ล้านบาทเศษ เพื่อปรับปรุงส่วนต่างๆ ในท่าเทียบเรืออ่าวฉลองให้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดอีกกว่า30ตัว,การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก ปรับปรุงอาคารพักคอย จัดซื้อทุ่นลอย เป็นต้น”

นายนรภัทร กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในส่วนของงบประมาณที่จะเสนอขอจาก ครม.สัญจร นั้น จะนำมาใช้ในการปรับปรุงระบบควบคุมการจราจรทางน้ำ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง,การจัดหาเรือตรวจการณ์ขนาด 80 ฟุต, อุปกรณ์ต่างๆ ของศูนย์ควบคุมการจราจรทางทะเล ซึ่งตั้งอยู่ที่ท่าเรืออ่าวฉลอง ที่ปัจจุบันชำรุดไม่สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบVTMSระบบAISหรือระบบติดตามเรือ เรดาร์ , อุปกรณ์กู้ภัยและช่วยเหลือทางน้ำ , เรือพยาบาล, ระบบตรวจสอบบุคคล, เรือดับเพลิง เป็นต้น เพื่อให้สามารถบูรณาการการบริหารจัดการด้านการเฝ้าระวังและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลในจังหวัดภูเก็ต เพื่อศักยภาพศูนย์เฝ็าระวังและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ตลอดจนสร้างมาตรฐานและคุณภาพของการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนได้มีความมั่นใจในความปลอดภัย

ขณะที่นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวที่ จ.ภูเก็ต เกี่ยวกับการเสนอของประมาณของจังหวัดภูเก็ต เพื่อพัฒนาศักยภาพศูนย์เฝ้าระวังฯ ในการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ0ระนองและชุมพร ในระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคมนี้ว่า ในเรื่องของจำนวนงบประมาณ 500 ล้านบาทเศษนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะจังหวัดภูเก็ตทำรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับประเทศปีละนับแสนล้านบาทแต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการนำเสนอโครงการและกิจกรรมที่นำเสนอให้กับส่วนกลางได้เห็นภาพว่า สิ่งที่นำเสนอนั้นสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างแท้จริง