คนในเหตุการณ์เล่าระทึก! จับสึก 'หลวงตา' สารภาพพลั้งมือตีเณรเจ็บโคม่า

คนในเหตุการณ์เล่าระทึก! จับสึก 'หลวงตา' สารภาพพลั้งมือตีเณรเจ็บโคม่า

สาเหตุของเรื่อง..คนในเหตุการณ์เล่าระทึก! ตร.จับสึก "หลวงตา" สารภาพพลั้งมือทำร้าย "เณร" เจ็บโคม่ายังไม่ออกจากห้องไอซียู

ความคืบหน้ากรณี สามเณรวัฒนพล สีสวัสดิ์ หรือ เณรดิว อายุ 9 ขวบ ชาวต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ที่บวชจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนขมิ้น ต.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ถูกทำร้ายร่างกาย อาการสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อ.เมืองกาญจนบุรี เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมี หลวงตาศุภชัย สุทธิญาโน อายุ 64 ปี พระลูกวัดดอนขมิ้น ตกเป็นผู้ต้องสงสัยลงมือก่อเหตุนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (19 ส.ค. 61) ร.ต.อ.อำนาจ จันทร์บุตร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลูกแก จ.กาญจนบุรี ได้เดินทางไปที่วัดดอนขมิ้น ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย นางสุกัญญา ตุ้นฮิ้น อายุ 33 ปี แม่สามเณรดิว อายุ 9 ขวบ พร้อมควบคุม หลวงตาศุภชัย สุทธิญาโน ท่ามกลางญาติของ สามเณรดิว และประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางไปดูเหตุการณ์กันเป็นจำนวนมาก
จากนั้น ร.ต.อ.อำนาจ ได้นำตัว หลวงตาศุภชัย ไปให้เจ้าอาวาสวัดลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ตำแหน่งเจ้าคณะตำบล ทำการสึก และนำตัว อดีตหลวงตาศุภชัย หรือ นายสุภชัย บุญลักขะ อายุ 64 ปี ชาวต.บางบัวทอง อ.บางบัวทองจ.นนทบุรี ผู้ต้องหา กลับมาสอบปากคำต่อที่ สภ.ลูกแก



เบื้องต้น อดีตพระศุภชัย ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำร้าย สามเณรวัฒนพล จนได้รับบาดเจ็บสาหัสจริง โดยอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุตนเพิ่งกลับจากรับกิจนิมนต์ข้างนอก เมื่อมาถึงวัดแม่ชีได้มาฟ้องว่า สามเณรวัฒนพล ดื้อรั้น ไม่เชื่อฟัง จึงได้ทำโทษด้วยการใช้ไม้ตี ซึ่งที่ผ่านมาเคยใช้ไม้ตีเพื่อสั่งสอนอยู่หลายครั้ง เนื่องจากสามเณร วัฒนพล มีนิสัยซุกซนดื้อรั้น ไม่เชื่อฟัง แต่ในวันเกิดเหตุ ตนเกิดความโมโหมาก จึงเกิดบันดาลโทสะและพลั้งมือ ใช้ท่อนไม้ตีไปหลายครั้ง จนกระทั่ง สามเณร วัฒนพล ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดเพิ่มเติมต่อไป

ขณะที่ สามเณรรูปหนึ่ง (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ที่เป็นเพื่อน สามเณรดิว ซึ่งบวชเรียนมาด้วยกัน และอยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ เณรดิว ไม่สบายอยู่ก่อนแล้ว โดยหลวงตาศุภชัย ทำโทษด้วยการให้เณรดิวเข้าไปนั่งในกะละมังที่มีน้ำเต็มอยู่ นานประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างนั้นก็จะเรียกให้เณรดิว ลุกขึ้นมาแล้วก็ตี ตีเสร็จก็ให้ลงไปนั่งแช่ในกะละมังอีก สลับกันอยู่อย่างนี้ จากนั้นก็สั่งให้ลุกขึ้นมาเป่าพัดลม แล้วก็เรียกไปตี ซึ่งขณะนั้นเวลาประมาณ 17.00 น.เศษ ใกล้เวลาจะทำวัด

จากนั้นก็ขึ้นไปเพื่อสวดมนต์ ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 18.35 น. โดยหลวงพ่อพระพี่เลี้ยงได้ให้สามเณรให้นั่งสมาธิก่อน แต่หลวงตาไม่นั่งและก็เดินลงมา พร้อมกับถามเณรดิว ว่าไปรังแกน้องทำไม แต่ เณรดิว ตอบกลับว่าไม่ได้รังแก หลวงตาจึงผลัก เณรดิว โดยคางไปโดนกับขอบเสา จนคางแตก และก็สลบไป แต่หลวงตานึกว่า เณรดิวแกล้งสลบ จึงยกตัวเณรดิวขึ้นแล้วก็ทุ่มร่างลงกับพื้น ทำให้หัวไปกระแทกกับพื้น และเณรดิวก็แน่นิ่งไป

สามเณรคนเดิมกล่าวต่อว่า หลวงพ่อที่เป็นพระพี่เลี้ยง ให้แบกร่างของเณรดิว ขึ้นไปข้างบน ขณะที่หลวงตาก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด และหลังจากที่ตนแบกเณรดิว ขึ้นไปมาทราบอีกที เณรดิวก็อยู่โรงพยาบาลแล้ว สำหรับสาเหตุที่หลวงตาลงมือทำร้ายเณรดิว ในครั้งนี้ เนื่องจากเณรดิวไปแกล้งน้อง แต่ก่อนหน้านี้ เณรดิวก็พยายามจุดไฟจะเผาวัดหลายครั้ง และบางครั้งก็จุดไฟจะเผาตนและเณรคนอื่นๆ นอกจากนี้ยังขโมยเงินหลวงตาอีกด้วย

ด้าน น.ส.สุกัญญา ตุ้นฮิ้น แม่ของเณรดิว เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลูกแก และจากสภาพที่เห็นลูกครั้งแรกต้องตกใจอย่างหนัก เนื่องจากพบร่องรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ศรีษะบวม คางแตก และหมดสติ อาการเป็นตายเท่ากัน โดยแพทย์ระบุว่ามีโอกาสรอดน้อยมาก สำหรับเณรดิว บุตรชายบวชเณรภาคฤดูร้อน เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งตนไม่ค่อยไปหาเณรบ่อยนัก ล่าสุดที่ไปหาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากตนทำงานรับจ้าง ทั้งนี้ตนเชื่อว่า อดีตหลวงตาศุภชัย เป็นคนทำ เพราะที่ผ่านมาจะพบเห็น เณรดิวถูกอดีตหลวงตาศุภชัยทำโทษด้วยการตีเป็นประจำ และยังเคยถูกตีที่ก้นจนเป็นแผลฉกรรจ์ แต่ครั้งนี้อดีตหลวงตาศุภชัย ทำรุนแรงเกินกว่าเหตุไปมากถึงขนาดแขนหัก ซึ่งตนรับไม่ได้และได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ลูกแก ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด สามเณร วัฒนพล สีสวัสดิ์ อายุ 9 ขวบ ยังอยู่ในอาการโคม่า และทรุดลงอย่างต่อเนื่อง คณะแพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แต่สุดท้ายอาการก็ยังไม่ดีขึ้น และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่รู้สึกตัวแต่อย่างใด