ตลาดโรงเกลือวอด30ล้าน ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย

ตลาดโรงเกลือวอด30ล้าน ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย

ผู้ว่าฯสระแก้ว เผยตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยตลาดโรงเกลือ คาดเสียหายหนัก 20-30 ล้าน รอผลการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน หาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ เกิดจากสาเหตุใด

เมื่อวันที่ 19 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณตลาดโรงเกลือ  ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งแต่ช่วงสายเป็นต้นมา ภายใต้การอำนวยการของ นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้ นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ จัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยตลาดโรงเกลือ ตลาดเทศบาล 3 ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริเวณตึก B ซึ่งเป็นจุดที่มีการขายสินค้าประเภทเสื้อผ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายสิ้นเชิง ประมาณ 10 คูหา  

ทั้งนี้  นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ ได้ร่วมกับ พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองลึก และผู้แทนตลาดโกลเด้นเกต ได้ร่วมกันหารือกับเจ้าของห้องและผู้เช่าล๊อคสำหรับค้าขายซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา เพื่อสำรวจความเสียหายของสินค้าในบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ และพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงการประกันอัคคีภัย พร้อมทั้งร่วมกันอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ซึ่งนำโดย พ.ต.ต.สุรพล ภักดีมี สว.พฐ.จว.สระแก้ว ในการลงพื้นที่เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้เสียก่อน เนื่องจากมีผลต่อการจ่ายเงินสินประกันอัคคีภัย ซึ่งเจ้าของอาคารได้ทำประกันภัยไว้เฉพาะตัวอาคารด้วย          

นายสวนิต กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ได้ตั้งเต็นท์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ค้าขายและเจ้าของแผงเช่าได้แจ้งรายละเอียดความเสียหาย ซึ่งเสียหายรวมทั้งหมด 10 คูหา โดยในจำนวนนี้ 8 คูหา ได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง ซึ่งแต่ละคูหาทั้งซ้ายและขวาของอาคาร B ได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้า อุปกรณ์ประดับยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและของที่สั่งมาสต๊อกไว้ เพื่อขายให้ลูกค้าประมาณรายละ 2-3 ล้านบาท หรือรวมค่าเสียหายประมาณ 20-30 ล้านบาท  

นายอำเภออรัญประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.สระแก้ว แจ้งว่า จะทราบผลการตรวจสอบสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ภายใน 2-3 วัน จากนั้นก็จะไปพูดคุยกับบริษัทประกันภัย เนื่องจากเจ้าของอาคารได้ทำประกันอัคคีภัยไว้กับบริษัทประกันภัย เฉพาะตัวอาคาร  ส่วนของทางราชการก็เข้าไปช่วยอำนวยความสะดวก กันพื้นที่ส่วนที่เกิดเหตุเป็นเขตอันตรายไว้ก่อน