กลาโหมสหรัฐเผยจีนฝึกทิ้งระเบิดโจมตีแดนอินทรี

กลาโหมสหรัฐเผยจีนฝึกทิ้งระเบิดโจมตีแดนอินทรี

กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ประเมินรัฐบาลปักกิ่ง เดินหน้าปรับโฉมกองกำลังภาคพื้นดิน รวมทั้งฝึกใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดเพื่อโจมตีเป้าหมายสหรัฐและพันธมิตรในแปซิฟิก

รายงานประจำปีที่ยื่นต่อสภาคองเกรส เผยแพร่เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้ฉายภาพอิทธิพลทางการทูต เศรษฐกิจและการทหารเติบใหญ่ของจีน และรัฐบาลปักกิ่งกำลังใช้สิ่งเหล่านี้ครอบงำภูมิภาคและขยับขยายพื้นที่ในต่างประเทศอย่างรวดเร็ว

รายงานฉบับนี้ระบุว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลของจีนกำลังพัฒนาศักยภาพโจมตีเป้าหมายไกลจากจีนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) ขยายพื้นที่ปฏิบัติการของเครื่องบินทิ้งระเบิดเหนือผืนน้ำออกไปอย่างรวดเร็ว สั่งสมประสบการณ์ในภูมิภาคเดินทะเลที่สำคัญ และมีแนวโน้มฝึกโจมตีต่อเป้าหมายพันธมิตรและสหรัฐอเมริกา” รายงานระบุ

ในเดือนสิงหาคม 2560 เครื่องบินทิ้งระเบิด H-6K ของจีน 6 ลำ บินผ่านชองแคบมิยาโกะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น จากนั้น หันขึ้นเหนือบินไปทางตะวันออกของเกาะโอกินาวา ที่มีทหารสหรัฐ 4.7 หมื่นนายประจำการอยู่เป็นครั้งแรก ซึ่งพีแอลเออาจแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการโจมตีกองกำลังสหรัฐและพันธมิตร กับฐานทัพในแปซิฟิกตะวันตก ที่มีเกาะกวมตั้งอยู่

ทั้งนี้ กองทัพจีนตั้งเป้าเป็นกองทัพเวิล์ดคลาสภายในปี 2050 และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีคำสั่งเมื่อปีที่แล้ว ให้พีแอลเอทวีความพยายามสู่เป้าหมาย จีนต้องการกองทัพที่มีความพร้อมต่อสู้และชนะสงคราม

รายงานระบุว่า เมื่อเดือนเม.ย. 2560 พีแอลเอปฏิรูปหน่วยทหารยุทธวิธีและปฏิบัติการครั้งใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปโครงสร้าง และ ด้วยกำลังพลเกือบ 1 ล้านคน พีแอลเอ เป็นกองกำลังภาคพื้นดินใหญ่ที่สุดในโลก และวัตถุประสงค์ของการปฏิรูปเหล่านี้ ก็เพื่อสร้างกองกำลังพื้นดินที่สามารถแยกส่วน เคลื่อนที่ง่ายและอันตราย เป็นแกนหลักของปฏิบัติการร่วมได้ อันเป็นการตอบสนองคำสั่งต่อสู้และชนะสงครามของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

งบประมาณทหารของจีนในปี 2550 อยู่ที่ประมาณ 1.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังห่างไกลจากงบทหารประจำปีสหรัฐซึ่งอยู่ที่ราว 7 แสนล้านดอลลาร์

ในเรื่องของไต้หวัน รายงานชี้ว่า พีแอลเอเตรียมแผนพร้อมรับเหตุไม่คาดฝัน เพื่อรวมไต้หวันโดยใช้กำลัง ขณะป้องปราม ชะลอหรือปฏิเสธการเข้าแทรกแซงของฝ่ายที่สามในนามของไต้หวันในเวลาเดียวกัน “หากสหรัฐแทรกแซง จีนจะพยายามชะลอการแทรกแซงนั้นอย่างมีประสิทธิภาพ และหาทางชนะสงครามอย่างจำกัดในเวลาอันสั้น”

รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว เน้นย้ำเรื่องที่จีนขยายอิทธิพลทางทหารทั่วโลกด้วยการสร้างฐานทัพใหม่ในต่างประเทศ อาทิ ปากีสถาน สอดรับกับนโยบายเส้นทางสายไหม ที่จีนพยายามกระชับสัมพันธ์กับประเทศต่างๆผ่านการให้กู้และข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐาน แต่รัฐบาลปักกิ่งตำหนิว่า เป็นการคาดการณ์อย่างไร้ความรับผิดชอบ

(ข่าวจากเว็บคมชัดลึก)