TRUE - ซื้อเก็งกำไร

TRUE - ซื้อเก็งกำไร

สูงกว่าคาด; ไตรมาสแรกที่รายงานกำไรหลัก นับตั้งแต่ไตรมาส 1/59 เป็นต้นมา

ผลประกอบการหลักสูงกว่าคาด

TRUE รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/61 ที่ 1 หมื่นล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนสุทธิ 1.25 พันล้านบาทในไตรมาส 2/60 และขาดทุนสุทธิ 387 ล้านบาทในไตรมาส 1/61 หากไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาส 2/61 ซึ่งได้แก่ 1) กำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) เฟส 2 จำนวน 2.4 หมื่นล้านบาท 2) การตั้งสำรองค่าเผื่อด้อยค่าสินทรัพย์จำนวน 1.4 หมื่นล้านบาท และ 3) ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 271 ล้านบาท บริษัทรายงานกำไรหลักในไตรมาสนี้ที่ 331 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนหลัก 1.1 พันล้านบาทในไตรมาส 2/60 และขาดทุนหลัก 604 ล้านบาทในไตรมาส 1/61 ไตรมาสนี้ถือว่าเป็นไตรมาสที่ TRUE รายงานกำไรหลักเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 1/59 เป็นต้นมา ผลประกอบการหลักที่ออกมาสูงกว่าที่เราคาดก่อนหน้าซึ่งคาดเป็นขาดทุนหลัก 600 ล้านบาทเนื่องจากต้นทุนบริการที่ต่ำกว่าคาด(ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์) และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ต่ำกว่าคาด การตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ครอบคลุมโครงข่าย สินทรัพย์ถาวรอื่นๆ และเครื่องโทรศัพท์ที่ยังไม่ได้ขาย กำไรหลักของเราได้รวมค่าเช่ารายไตรมาสซึ่ง TRUE ต้องจ่ายให้กับ DIF ในไตรมาส 2/61 จำนวน748 ล้านบาทไปแล้ว

ประเด็นหลักผลประกอบการ

ผลการดำเนินงานหลักที่ฟื้นตัวกลับมาเป็นกำไร เนื่องจากต้นทุนบริการที่ลดลงจากการควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน และการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์(ส่งผลให้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายลดลงตั้งแต่ไตรมาส 2/18 เป็นต้นไป) ภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน DIF ไปอยู่ที่ 30% (จาก 28.11%) ถ้าหากไม่รวมผลกระทบจาก DIF สำหรับวัตถุประสงค์ในการเปรียบเทียบ EBITDA ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง 8% YoY และ 2% QoQ รายได้รวม (ที่ไม่รวมผลกระทบจาก DIF) ลดลง 1.5% YoY แต่เพิ่มขึ้น 3.4% QoQ รายได้บริการทรูมูฟเอชในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 10% YoY (ซึ่งอัตราการเติบโต YoY ใกล้เคียงกับไตรมาส 1/61) เนื่องจากรายได้บริการรวมทั้งบริการเสียงและนอนวอยซ์ยังคงเติบโต 10% YoY จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหม่สุทธิอยู่ที่ 4.46 แสนรายในไตรมาส 2/61 (เทียบกับ 4.12 แสนรายในไตรมาส
1/61) รายได้ธุรกิจบรอดแบรนด์ยังคงแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้น 16% YoY จากจำนวนผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตบรอดแบรนด์รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอีก 85,000 ราย รายได้บริการทรูวิชั่นส์เพิ่มขึ้น 13% YoY เนื่องจากฟุตบอลโลก 2018เพิ่มรายได้โฆษณา รายได้สปอนเซอร์และรายได้งานอีเว้นท์

แนวโน้ม

เราประมาณการกำไรหลักไตรมาส 3/61 ที่ 500 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนหลักไตรมาส 3/60 ที่ 277 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 51% QoQ หนุนโดยการควบคุมต้นทุนและรายได้บริการที่ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง (ถึงแม้ว่าบริษัทจะคาดการณ์รายได้ที่มีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ก็ตาม) TRUE ได้ทำการปรับลดเป้าหมายอัตราการเติบโตของรายได้สำหรับปี 2561 ลงจาก 10-12% เหลือ 5-8% (ซึ่งเริ่มเข้ามาใกล้กับเป้าหมายรายได้ปี 2561 ของเราซึ่งคาดไว้ที่ 4.4%)

เราคาดว่าจะเห็นผลกระทบทางบวกจากการควบคุมต้นทุนอย่างจริงจังในช่วงครึ่งหลังปี 2561 โดยต้นทุนจากการดำเนินงานที่ยังสามารถลดลงได้อีกจะมาจากค่าใช้จ่ายด้านโครงข่ายและต้นทุนด้านบุคลากร

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 ลงอีก 59% (เหลือ 1.07 หมื่นล้านบาท) เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายสำรองการตั้งด้อยค่าของสินทรัพย์ในไตรมาส 2/61 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราทำการปรับเพิ่มผลประกอบการหลักสำหรับปี 2561 จากขาดทุนหลักที่ 2.46 พันล้านบาท ไปเป็นกำไรหลักที่ 757 ล้านบาท เพื่อสะท้อนการคาดการณ์กำไรหลักในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

คำแนะนำ

เนื่องจากราคาหุ้น TRUE ปรับตัวลดลงอย่างมากก่อนประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/61 ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของ TRUE กลับมาดูน่าสนใจอีกครั้ง เราจึงปรับคำแนะนำสำหรับหุ้น TRUE จาก “ถือ” ไปเป็น “ซื้อเก็งกำไร” จากเหตุผลของผลประกอบหลักที่มีแนวโน้มฟื้นตัวเป็นกำไรต่อเนื่องไปยังครึ่งหลังของปี 2561