ศาลให้ประกัน 'อดีตพุทธอิสระ' ปล่อยตัวพรุ่งนี้เช้า

ศาลให้ประกัน 'อดีตพุทธอิสระ' ปล่อยตัวพรุ่งนี้เช้า

ศาลอาญา นัดสอบคำให้การ "อดีตพุทธอิสระ" พรุ่งนี้ 9 โมงเช้า ขณะที่ศาลให้ประกันแล้ว หลังทนายยื่นเงินสด 2 แสน ห้ามออกนอกประเทศ

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.61 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 ได้นำสำนวนเอกสรหลักฐาน มายื่นฟ้อง นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 59 ปี หรืออดีตพระพุทธอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยและแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยการใดให้เจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ ให้รับอันตรายสาหัส , ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายฯ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 310 กรณีใช้ให้กลุ่มการ์ด กปปส.ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานตำรวจสันติบาล ประจำ จ.นนทบุรี ได้รับคำสั่งให้สืบสวนหาข่าวม็อบชาวนา ช่วงการชุมนุม กปปส.เมื่อปี 2557

โดยคำฟ้อง บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ.57 เวลากลางวัน ขณะนั้นมีการตั้งเวทีปราศรัยของกลุ่ม กปปส.ที่ ถ.แจ้งวัฒนะ บริเวณหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยมีจำเลย เป็นหัวหน้าผู้นำกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณเวทีดังกล่าวทั้งหมด และจำเลยกับกลุ่มบุคคลไม่ทราบชื่อจำนวนมากกว่า 5 คนขึ้นไป ซึ่งทำหน้าที่เป็นการ์ดคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณเวทีปราศรัยที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร.ต.ต.สมคิด เชยกมล และ ด.ต.วชิรพงศ์ อุ่นนวลบูรพงศ์ ผู้เสียหายที่ 1-2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าไปทำหน้าที่สืบสวนหาข่าว จำเลยกับพวกได้ใช้กำลังจับผู้เสียหายทั้งสองปิดตา มัดมือไพล่หลัง ใช้กำลังประทุษร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายที่ 1 ได้รับอันตรายสาหัส กระดูกซี่โครงหักและตับฉีกขาด บาดแผลใช้เวลารักษาตัวประมาณ 6 สัปดาห์ ผู้เสียหายที่ 2 ได้รับอันตรายแก่กาย มีบาดแผลฟกช้ำหลายแห่ง ฟันซ้ายล่างหัก ใช้เวลารักษาตัวประมาณ 10 วัน และเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งสองถูกประทุษร้ายสูญหายมูลค่ารวม 60,900 บาท

นอกจากนี้ จำเลยกับพวกยังร่วมกันข่มขู่ให้ผู้เสียหายทั้งสองบอกรหัสปลดล็อคโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหาย ให้บอกว่าตนเป็นผู้ใด เข้ามาบริเวณที่ชุมนุมเพื่ออะไร เมื่อไม่ยอมบอกพวกของจำเลยจึงใช้กำลังประทุษร้ายและข่มขู่ว่าจะเอาผู้เสียหายทั้งสองไปลอยน้ำ จนผู้เสียหายทั้งสองต่างจำยอมตามที่พวกของจำเลยข่มขู่ โดยจำเลยนี้ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการชุมนุมมีอำนาจสั่งการให้พวกของจำเลยปฏิบัติตามคำสั่งของตนได้ จำเลยทราบว่าพวกของจำเลยได้หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายทั้งสองไว้ แต่กลับเพิกเฉยไม่สั่งให้ปล่อยตัวไป และสั่งการพวกของจำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายทั้งสองไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาซึ่งท้ายฟ้องอัยการขอให้ศาลนับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.247/2561 (คดีกบฏ กปปส.) ด้วย โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็น คดีหมายเลขดำ อ.2498/2561 และนัดสอบคำให้การจำเลย ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฟ้องคดีนี้ เป็นการฟ้องโดยที่ตัว นายสุวิทย์ หรืออดีตพระพุทธอิสระ ยังคงถูกคุมขังระหว่างการฝากขังคดีนี้ ซึ่งวันนี้ครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย (ครั้งที่ 7 รวม 84 วัน)

อย่างไรก็ดีภายหลังอัยการยื่นฟ้องแล้ว ทนายความของ นายสุวิทย์ หรืออดีตพระพุทธอิสระ จำเลย ก็ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 200,000 บาท ซึ่งศาลพิจารณาความหนักเบาของข้อหา ประกอบพนักงานอัยการโจทก์ไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราว ศาลจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยชั้นพิจารณาคดี โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับ นายสุวิทย์ หรืออดีตพระพุทธอิสระ นั้น ปัจจุบันยังถูกฝากขังในคดีแจ้งข้อกล่าวหาปลอมพระปรมาภิไธย จากการนำอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. และอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. มาประดิษฐานหลังองค์พระเครื่องนาคปรก อุดปรอท รุ่นหนึ่งในปฐพี โดยไม่ได้รับพระราชทานด้วย ซึ่งคดีดังกล่าวก็ครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายนี้เช่น ซึ่งอัยการยังไม่ได้มีคำสั่งหรือไม่ฟ้องเนื่องจากเพิ่งได้รับสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวจากพนักงานสอบสวนในวันนี้

ส่วนคดีที่ นายสุวิทย์ หรืออดีตพระพุทธอิสระ ตกเป็นจำเลยที่ 16 ในคดีกบฏ กปปส. ด้วยนั้น คดีก็อยู่ระหว่างรอสืบพยานในชั้นศาลอาญา