'สนธิรัตน์' กระตุ้นชาวเหนือรุกค้า อี-คอมเมิร์ซ

'สนธิรัตน์' กระตุ้นชาวเหนือรุกค้า อี-คอมเมิร์ซ

"สนธิรัตน์" กระตุ้นชาวเหนือรุกค้า อี-คอมเมิร์ซ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "SMEs ยุคใหม่ก้าวไกลด้วย อี-คอมเมิร์ซ" จัดโดย กระทรวงพาณิชย์ ณ โรงแรมแกรนด์วิสต้า เชียงราย จ.เชียงราย ใจความสำคัญตอนหนึ่งระบุว่า การค้าอี-คอมมิร์ช หรือ การค้าออนไลน์ ซึ่งรวมถึงการทำธุรกิจผ่านมือถือ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ถือเป็นเครื่องมือการค้ายุคใหม่ที่มาแรงทั่วโลก หากผู้ประกอบการตัวเล็กไม่ขยายธุรกิจเข้าสู่ช่องทางเหล่านี้เพิ่มเติมจากการค้าออฟไลน์ (ขายผ่านหน้าร้าน) โอกาสที่จะหายไปจากวงจรธุรกิจในอนาคตมีสูงมากเพราะจะแข่งขันลำบาก

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ดังนั้น จึงต้องสนใจและใส่ใจในการเข้าสู่การค้าอี-คอมเมิร์ซ ที่ปัจจุบันเป็นเรื่องไม่ไกลตัว เพื่อให้สามารถทำการค้ากับทั่วโลกได้แบบไร้พรมแดน ไม่ใช่เฉพาะกับคนไทย 60 กว่าล้านคน

"อี-คอมเมิร์ซ เป็นโอกาสของคนตัวเล็กที่เห็นโอกาส รวมถึงสตาร์ตอัพที่มีสมองที่สามารถล้มคนตัวใหญ่ได้ ตัวอย่าง มีเด็กจบวิศวะไปทดลองทำเครื่องสำอางเอง แล้วจ้างโรงงานผลิตขายผ่านเฟซบุ๊ก ไม่มีออฟฟิศ มีผู้ช่วยอีก 2 คน แต่สามารถทำยอดขายได้ถึงเดือนละ 5 ล้านบาท ปีหนึ่งมียอดขาย 60 ล้านบาท คิดกำไรครึ่งหนึ่งก็ตก 30 ล้านบาทต่อปี ซึ่งการค้าอี-คอมเมิร์ซ สิ่งสำคัญ คือ การสร้างความน่าเชื่อถือ สินค้าต้องดี มีคุณค่าและมีความแตกต่าง โดยการสร้าง Story ให้เป็นที่น่าสนใจของลูกค้า มีแพ็กเก็จจิ้งที่สวยงาม ง่ายต่อการใช้ ซึ่งถ้าเป็นของดี เขาก็จะทดลองใช้ และบอกต่อทำให้เกิดการซื้อซ้ำ" รมว.พาณิชย์ กล่าว

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์ยังมีการพัฒนาเว็บไซต์ Thaitrade.com เป็นแพลตฟอร์มแห่งชาติ เพื่อช่วยผู้ประกอบการในการค้าออนไลน์กับทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงได้ขยายเครือข่ายสร้างพันธมิตรกับอี-คอมเมิร์ซที่หลากหลาย อาทิ อาลีบาบา อเมซอน อีเบย์ เพื่อช่วยผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ทุเรียนไทยได้รับความนิยม มียอดสั่งซื้อจากผู้บริโภคชาวจีนโดยตรงกว่า 7 หมื่นคำสั่งซื้อ ปริมาณทั้งสิ้น 1.3 แสนลูก หรือ 350 ตันภายใน 3 วัน คิดเป็นเงิน 70 ล้านบาท โดยซื้อตรงจากผู้ประกอบการไทยและชาวสวนผู้ผลิตกว่า 100 สวน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะมีผลไม้ไทยอีกหลายรายการที่จะประสบความสำเร็จเหมือนทุเรียน