วิกฤติค่าเงินตุรกีฉุดหุ้นยุโรปแดงทุกกระดาน

วิกฤติค่าเงินตุรกีฉุดหุ้นยุโรปแดงทุกกระดาน

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (13 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการทรุดตัวลงของค่าเงินลีราของตุรกีว่าอาจจะส่งผลลุกลามไปยังเศรษฐกิจและการเงินของประเทศอื่นๆ และจะกระทบต่อธนาคารยุโรป

ดัชนีสต็อกซ์ ยุโรป 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 384.91 จุด ดัชนีดีเอเอ็กซ์ ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,358.74 จุด ลดลง 65.61 จุด หรือ -0.53% ดัชนีซีเอซี-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันนี้ที่ 5,412.32 จุด ลดลง 2.36 จุด หรือ -0.04% และดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,642.45 จุด ลดลง 24.56 จุด, -0.32%

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ค่าเงินตุรกีส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้น โดยค่าเงินลีราของตุรกีดิ่งลงอย่างหนักตั้งแต่วันศุกร์และอ่อนค่าลงเรื่อยมาจนถึงเมื่อวานนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้เพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีกสองเท่า โดยอัตราภาษีต่อเหล็กนำเข้าจะอยู่ที่ 50% และอลูมิเนียมอยู่ที่ 20%

ด้านธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการดิ่งลงของค่าเงินตุรกีที่จะมีต่อธนาคารยุโรป โดยเฉพาะธนาคารบีบีวีเอ ของสเปน, ธนาคารยูนิเครดิตของอิตาลี และธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ของฝรั่งเศส

การดิ่งลงของค่าเงินลีราจะส่งผลกระทบต่อธนาคารยุโรปที่ได้เข้าไปทำธุรกิจในตุรกี โดยอีซีบี วิตกว่าการทรุดตัวของค่าเงินจะทำให้ภาคธุรกิจของตุรกีผิดนัดชำระหนี้สกุลเงินต่างประเทศ เนื่องจากจะทำให้ลูกหนี้ในตุรกีต้องชำระหนี้ในมูลค่าของลีราที่สูงขึ้น โดยหนี้สกุลเงินต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40% ของสินทรัพย์ในภาคธนาคารของตุรกี

ข้อมูลจากธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บีไอเอส) ระบุว่า ภาคธนาคารของสเปนได้ปล่อยสินเชื่อแก่ตุรกีคิดเป็นวงเงิน 8.33 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารฝรั่งเศสปล่อยสินเชื่อ 3.84 หมื่นล้านดอลลาร์ และธนาคารอิตาลีปล่อยสินเชื่อ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์