พพ.เกาะติดสถานการณ์น้ำเขื่อนคิรีธาร จ.จันทบุรี

พพ.เกาะติดสถานการณ์น้ำเขื่อนคิรีธาร จ.จันทบุรี

พพ.เกาะติดสถานการณ์น้ำเขื่อนคิรีธาร จ.จันทบุรี หลังมีปริมาณน้ำกว่า 92% ของความจุเขื่อน พร้อมเร่งรับมือระบายน้ำ

นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า จากการประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ระบุว่าจะเกิดฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยจะทำให้น้ำในเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำบางพื้นที่ มีปริมาณน้ำสูงขึ้นนั้น ซึ่งในขณะนี้จากการติดตาม พบว่า พื้นที่จ.จันทบุรีมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีปริมาณน้ำในเขื่อนโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธารซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ พพ. เพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน โดย พพ. จึงได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำของเขื่อนคิรีธาร ซึ่งเขื่อนคีรีธารมีความจุ 76 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันพบว่ามีปริมาณน้ำในเขื่อนที่ระดับ 70.52 ล้านลูกบาศก์เมตร และระดับยังต่ำกว่าทางน้ำล้น (Spillway) ประมาณ 57 เซนติเมตร คิดเป็นปริมาณน้ำประมาณร้อยละ 92.8 จากความจุเขื่อน

โดยแนวทางการเฝ้าระวังระดับน้ำในขณะนี้ พพ. ได้เดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าจากน้ำในเขื่อนตลอด 24 ชั่วโมง สามารถระบายน้ำสู่แม่น้ำจันทบุรี ประมาณ 500,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และได้ร่วมมือกับ อบจ.จันทบุรี ,เทศบาลตำบลบ่อเวฬุ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมติดตั้งท่อระบายน้ำที่บริเวณ Spillway ดังกล่าว ทั้งหมด 16 ชุด ได้แก่ ท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว จำนวน 5 ชุด จาก อบจ.จันทบุรี ท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว จำนวน 1 ชุดจากเทศบาลตำบลบ่อเวฬุ ท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว จำนวน 4 ชุด จากชาวบ้านผู้ใช้น้ำและท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว จำนวน 6 ชุด จากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคีรีธาร

สำหรับการทำงานของท่อระบายน้ำทั้ง 16 ชุดครั้งนี้ จะช่วยระบายน้ำได้ประมาณ 86,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยระบายน้ำลงคลองอีตัก อ.ขลุง จ.จันทบุรี โดยปริมาณน้ำดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ประชาชนที่อยู่ท้ายน้ำ และไม่ส่งผลต่อแม่น้ำจันทบุรีทำให้ระบายน้ำออกจากเขื่อนได้รวม 586,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่ง พพ. จะได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในเขื่อนคิรีธาร และเขื่อนรวมทั้งฝายต่างๆ ของ พพ. อย่างใกล้ชิดต่อไป