ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทะยานกว่า 1%

ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทะยานกว่า 1%

ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันตึงตัว หลังสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส สหรัฐ ปิดตลาดวันศุกร์ (10ส.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ทะยานขึ้นกว่า 1% โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การที่สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเผชิญภาวะตึงตัว แต่เมื่อพิจารณาการปรับตัวของตลาดตลอดสัปดาห์ ราคาน้ำมันมีแนวโน้มดิ่งลง 1% ในสัปดาห์นี้

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.2%  ปิดตลาดที่ 67.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1% ปิดตลาดที่ราคา 72.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นรัฐบาลอิหร่านในการเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ, การทำธุรกรรมในสกุลริอัลในบัญชีธนาคารระหว่างประเทศ หรือในการออกพันธบัตร, การทำธุรกรรมซื้อขายทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงถ่านหิน อลูมินัม และเหล็กสำหรับการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และการผลิตรถยนต์ ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่อิหร่านบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับมหาอำนาจทั้ง 6 ชาติในปี 2558 เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์

มาตรการที่สหรัฐใช้คว่ำบาตรอิหร่านในครั้งนี้ ถือเป็นมาตรการรอบแรก ก่อนที่สหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรรอบ 2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งจะพุ่งเป้าไปยังการทำธุรกรรมของธนาคารกลาง การส่งออกน้ำมัน และการขนส่งสินค้าทางเรือของอิหร่าน

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 600,000-1,500,000 บาร์เรล

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยนักลงทุนกังวลว่าการทำสงครามการค้าจะฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน