แซงค์ชันอิหร่านกดดันราคาน้ำมันดิบปิดร่วง

แซงค์ชันอิหร่านกดดันราคาน้ำมันดิบปิดร่วง

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยนักลงทุนกังวลว่าการทำสงครามการค้าจะฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส  ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (9ส.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวลง 13 เซนต์  หลังจากราคาดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ เพราะถูกกดดันจากการที่สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเผชิญภาวะตึงตัว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 13 เซนต์  ปิดตลาดที่ 66.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 30 เซนต์ ปิดที่ 71.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

การที่รัฐบาลสหรัฐ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นรัฐบาลอิหร่านในการเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ, การทำธุรกรรมในสกุลริอัลในบัญชีธนาคารระหว่างประเทศ หรือในการออกพันธบัตร, การทำธุรกรรมซื้อขายทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงถ่านหิน อลูมินัม และเหล็กสำหรับการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และการผลิตรถยนต์ ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่อิหร่านบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับมหาอำนาจทั้ง 6 ชาติในปี 2558 เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์

มาตรการที่สหรัฐใช้คว่ำบาตรอิหร่านในครั้งนี้ ถือเป็นมาตรการรอบแรก ก่อนที่สหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรรอบ 2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งจะพุ่งเป้าไปยังการทำธุรกรรมของธนาคารกลาง การส่งออกน้ำมัน และการขนส่งสินค้าทางเรือของอิหร่าน

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 600,000-1,500,000 บาร์เรล