สงครามการค้าถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ

สงครามการค้าถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ

แม้ผลประกอบการบริษัทจะสดใสช่วยชดเชยปัจจัยลบจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง  74.52 จุดหรือ 0.29% ปิดที่ 25,509.23 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 4.12 จุดหรือ 0.14% ปิดที่ 2,853.58  จุด และดัชนีแนสแด็กปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.46 จุดหรือ 0.04% ปิดที่ราคา 7,891.78 จุด

ทั้งนี้ บริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 เกือบ 90% รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 และบริษัท 76.36% จากจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ รวมทั้งเวียคอม บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของเอ็มทีวี พาราเมาท์ พิคเจอร์ส และคอมเมดี เซ็นทรัล เปิดเผยกำไรในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 3 ของปีงบการเงินบริษัท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่รายได้ต่ำกว่าคาด

เวียคอม มีกำไร 1.18 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.07 ดอลลาร์/หุ้น มีรายได้ที่ 3.24 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.26 หมื่นล้านดอลลาร์

กระทรวงพาณิชย์ของจีน ประกาศเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงน้ำมันดิบและรถยนต์เมื่อวานนี้ เพื่อตอบโต้สหรัฐซึ่งได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค.

ก่อนหน้านี้ คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนล็อตแรกในอัตรา 25% วงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นไม่นาน จีนก็ได้ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐในอัตราและวงเงินที่เท่ากัน

การที่สหรัฐออกมาตรการเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนทั้ง 2 ล็อตคิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ในอัตราภาษีและวงเงินที่เท่ากัน