รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ จ่อประชุมแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์

รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ จ่อประชุมแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์

รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ จ่อประชุมแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ สรุปรายการขยะห้ามนำเข้า 15 ส.ค.นี้ 

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.เวลา 11.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาขยะว่า ในแหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ 154 แห่งทั่วประเทศ และสวนสัตว์ 8 แห่งก็จะมีการเลิกใช้ถุงพลาสติกและโฟมในอีก 1-2 เดือนนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยวได้ปรับตัว ขณะที่แหล่งท่องเที่ยว เช่น เกาะเต่า จ.สุราษฏร์ธานี เกิดปัญหาขยะเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราได้เข้าไปพูดคุยแล้วจนปัญหาดีขึ้น ส่วนใหญ่เนื่องจากมีโรงเรียนสอนดำน้ำต่างชาติที่ไม่ถูกกฎหมายจำนวนมาก ส่วนเกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี ก็มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะนำไปกำจัดบนบก เพราะขยะในทะเลไปจากบนบกถึงร้อยบะ 80 ส่วนที่เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์เกิดจากกิจกรรมในทะเล สำหรับความคืบหน้าการแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์นั้น ในวันที่ 15 ส.ค.เวลา 13.00 น.จะมีการประชุมแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีการข้อสรุปบัญชีรายชื่อขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะไม่ให้นำเข้า  เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์นำไปออกประกาศเป็นสินค้าห้ามนำเข้า ถ้ายุติตรงนี้ขยะอิเล็กทรอนิกส์ก็จะเข้ามาผิดกฎหมายไม่ได้  ขณะเดียวกันรัฐบาลฝากการบ้านว่าให้ไปพูดคุยวางแผนเรื่องการกำจัดขยะที่มีการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี และแผงโซล่าเซลล์ซึ่งจะเป็นซากขยะในอนาคตด้วย

 พล.อ.สุรศักดิ์  กล่าวต่อไปว่าวันนี้รัฐบาลขอเอาสุขภาพคนไทยกับสิ่งแวดล้อมของประเทศมาเป็นตัวตั้ง ทำธุรกิจใดก็ตามถ้าก่อมลพิษกับประเทศคุณรู้ไว้เลยว่าธุรกิจนี้ไม่รุ่ง ธุรกิจนี้มีส่วนต่างเยอะ กำไรเยอะ คนทำกำลังรู้สึกมีความสุข แต่ไม่เป็นอะไรผมไม่ว่า  แต่ขอให้รู้ไว้ว่ามันไปต่อไม่ได้ โดยเรื่องนี้ต้องมาพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้จบภายใน 2 ปี คนที่ทำตรงนี้จะต้องถูกกฎหมาย ไม่ก่อมวลพิษ 3 ประการ ประกอบด้วย 1.ควบคุมและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น โรงงานที่ผิดทั้งหมดต้องถูกดำเนินคดี  ใครผิดก็คือผิด 2.ธุรกิจที่ก่อมลพิษจะไม่มีการขยายตัว และจะต้องเลิกกิจการตามเวลาที่กำหนด และ 3.ส่งเสริมสนับสนุนให้นำขยะหรือวัสดุเหลือใช้มาเป็นต้นทุนในการผลิตและส่งออกไปขาย” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า  ส่วนการนำพื้นที่มาแยกขยะพิษไม่ถูกกฎหมายนั้น สร้างรายได้ดี  แต่สารพิษไปปนเปื้อนดิน น้ำ เรากำลังสำรวจทั่วประเทศว่ามีจุดไหนบ้าง และจะเข้าไปพูดคุยกับประชาชน โดยเบื้องต้นมี 10 แห่ง เช่น ที่อ.ฆ้องชัย  จ.กาฬสินธุ์  ซึ่งตนจะลงพื้นที่ไปพูดคุยด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น เพราะเราจะไม่ให้สารพิษกระจายออกไปโดยเด็ดขาด