MINT - ซื้อ

MINT - ซื้อ

ผลประกอบการไตรมาส 2/61 ดีกว่าทุกคาดการณ์ และแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/61 แข็งแกร่ง

กำไรออกมาดีกว่าทุกคาดการณ์

MINT รายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/61 ที่ 1.2 พันล้านบาท กระโดดสูงขึ้น 64% YoY แต่ลดลง 30% QoQ โดยกำไรสุทธิออกมาสูงกว่าที่ตลาดประเมิน 20% และสูงกว่าที่เราคาดที่ 810 ล้านบาทอยู่มาก เนื่องจากรายได้เงินปันผลจาก NH Hotel Group (NH) และกำไรพิเศษจากที่ซื้อ Benihana ได้ในราคาถูก หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท เติบโต 47% YoY แต่ลดลง 37% QoQ

ประเด็นหลักผลประกอบการ

กำไรหลักเติบโต YoY เนื่องจากผลการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมแข็งแกร่ง;รายได้เงินปันผลจาก NH จำนวน 234 ล้านบาท (สุทธิจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องและภาษี) และรายได้โรงแรมขยายตัว (สูงขึ้น 21% YoY มาอยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท) กลบกับผลประกอบการธุรกิจอาหารที่ไม่ดีนัก ขณะที่กำไรอ่อนตัวลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวไทยและมัลดีฟส์ รวมถึงกำไรธุรกิจอาหารอ่อนแอ รายได้รวมของธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 14% YoY แต่ลดลง 12% QoQ มาอยู่ที่ 1.38 หมื่นล้านบาท อัตรากำไรหลักขยายตัวจาก 6.1% ในไตรมาส 2/60 มาอยู่ที่ 7.9% ในไตรมาส 2/61 หนุนโดยธุรกิจโรงแรม รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักโดยรวมลดลง 3.5% YoY ในไตรมาส 2/61 เนื่องจากอัตราค่าห้องพักต่ำลง 4% และอัตราการเข้าพักลดลงมาอยู่ที่ 66% จาก 67% ยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจอาหารอ่อนตัวลง 3.4% YoY (จากทุกพื้นที่) ขณะที่ยอดขายรวมทุกสาขาของธุรกิจดังกล่าวลดลง 0.7% YoY อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสูงขึ้นจาก 0.9 เท่า ณ สิ้นเดือนมี.ค. มาอยู่ที่ 1.6 เท่า ณ สิ้นเดือนมิ.ย.เนื่องจากมีการกู้เงินไปซื้อ NH Hotel

แนวโน้ม

เราคาด MINT จะรายงานกำไรไตรมาส 3/61 แข็งแกร่ง โดยน่าจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ หนุนโดยช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวในยุโรป การลงทุนในโรงแรม Tivoli และการปรับปรุงโรงแรมเป็นเวลา 2 ปี ที่จะออกดอกและผลเต็มเม็ดเต็มหน่วยในไตรมาส 3/61 ดังที่เห็นได้จากอัตราค่าห้องพักหลังปรับปรุงแล้วเสร็จสูงขึ้น 30% ธุรกิจโรงแรมจะยังเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนกำไรเติบโตในไตรมาส 3/61 หนุนโดยการดำเนินงานในต่างประเทศแข็งแกร่ง และคาดการณ์รายได้จากการขายอสังหาฯ ขยายตัวด้วยตัวเลขสองหลัก YoY

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กำไรหลักสำหรับครึ่งแรกของปี 2561 คิดเป็น 44% และ 48% ของประมาณการทั้งปี 2561 ของเราและตลาด ตามลำดับ ทั้งนี้มีอัพไซด์ต่อกำไรปี 2562 จากการเข้าซื้อ NH เนื่องจากการทำ tender offer จะแล้วเสร็จในเดือนต.ค. MINT มั่นใจมากว่าบริษัทจะถือหุ้น NH อย่างน้อย 44%ซึ่งจะสะท้อนในงบการเงินไตรมาส 4/61 ผลประกอบการของ NH ที่พลิกเป็นกำไร (จากขาดทุน 1 ล้านยูโร ในครึ่งแรกของปี 2560 มาเป็นกำไรสุทธิ 18 ล้านยูโรในครึ่งแรกของปี 2561) แสดงให้เห็นว่าจะเป็นผลบวกต่อ MINT เราประเมินว่าจะสร้างกำไรส่วนเพิ่มให้กับ MINT ในระดับกลางๆในปี 2562 หลังจากหักต้นทุนการซื้อ

คำแนะนำ

ช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวไทยจะต่อเนื่องถึงไตรมาส 3/61 ดังนั้นกำไรของ MINT มีแนวโน้มโดดเด่นกว่ากลุ่ม เนื่องจากไตรมาส3 เป็นช่วงที่ดีที่สุดของ Tivoli (70% ของกำไรทั้งปีถูกรับรู้ในเดือนมิ.ย.-ต.ค.) แม้ MINT ซื้อขายที่ PER ปี 2561 ที่ 28.1 เท่า แนวโน้ม PER ปี 2562 ต่ำลงมาก หนุนโดยอัพไซด์ต่อกำไรจากการซื้อ NH เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2561 ที่ประเมินด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสดที่ 46 บาท (ต่ำกว่ามูลค่าคิดลดกระแสเงินสด 20%, WACC 7.7% และ terminal growth rate 2%)