ผู้การนครบาล4 เชื่อ 'โก้' ยังกบดานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน

จากกรณีพบศพหญิงนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วัย 39 ปี ถูกตีด้วยไม้เบสบอลเสียชีวิต ภายในโรงแรมหรู ย่านลาดพร้าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายจับ นายอัศยา ชัยภา หรือ โก้ อายุ 33 ปี ในข้อหาฆ่าโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และออกหมายเรียก นายอนุวัฒน์ ชัยภา อายุ 32 ปี น้องชายคนร้าย ให้มาพบเจ้าหน้าที่ภายในวันที่ 12 ส.ค. 61 หากไม่มาจะออกหมายเรียกครั้งที่2 ก่อนจะออกหมายจับ ในข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ล่าสุดทางครอบครัวผู้ตายอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และตั้งทนาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

วันนี้(7ส.ค.) พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล4 (ผบก.น.4) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานทุกหน่วยงานให้ติดตามตัวคนร้ายรายนี้แล้ว เชื่อว่าคนร้ายยังหลบหนี และดบกานอยู่ภายในประเทศเพื่อนบ้าน (ฝั่งกัมพูชา) ซึ่งมีช่องทางเข้า-ออกได้หลายทาง และเชื่อว่าอาจมีคนที่ทำงานอยู่แถบชายแดน ซึ่งเป็นคนไทย อยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุนเส้นทางการหลบหนีด้วย แต่ไม่ใช่ตำรวจ หรือผู้มีอิทธิพล แต่เป็นบุคคลธรรมดาที่รู้จักกัน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้พบการเคลื่อนไหวในบัญชีของคนร้าย แต่ล่าสุดทางพนักงานสอบสวน ได้ประสานกับทางธนาคาร ให้ทำการอายัดบัญชีของนายอัศยา รวมถึงนายอนุวัฒน์ ชัยภา อายุ 32 ปี น้องชาย ซึ่งขณะนี้ได้อายัดไว้ทั้งหมดแล้ว

ทางด้าน พ.ต.ท.พสิษฐ์ สายชนม์ศักดิ์ รองผู้กำกับ (สอบสวน) สน.โชคชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียก นายวรวุฒิ ชัยภา อายุ 60 ปี และ นางหนูนิ่ม ชัยภา อายุ 56 ปี บิดาและมารดาของคนร้าย ให้มาพบกับพนักงานสอบสวน โดยได้มีการสอบปากคำไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 61 เวลาประมาณ 02.00 น. ซึ่งทางพ่อและแม่ของคนร้าย บอกเพียงว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 61 นายอัศยา (หรือโก้) ได้โทรศัพท์มาบอกว่าได้ลงมือฆ่าไฮโซสาว และจะมอบตัว แต่เมื่อถามกลับไปว่า ทำไมถึงไปฆ่าแกงเขา และอยู่ที่ไหน นายอัศยา หรือโก้ ก็ไม่ตอบ และวางสายโทรศัพท์ไปทันที จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

 

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ยังไม่ทราบว่า จะมีมวลชนมารวมตัว เพื่อทวงถามคดีไฮโซสาวถูกฆ่าตาย ภายในโรงแรมหรู ย่านลาดพร้าว จึงได้ติดต่อไปหาตัวแทนมวลชน จึงทราบว่าจะมาที่ สน.โชคชัย ในช่วงบ่ายของวันนี้