เผาศพ 'ไฮโซเชอรี่' พ่อเผยตร.ขอ7วันล่าคนร้าย ผู้นำชุมชนขู่บุกสน.โชคชัย

เผาศพ 'ไฮโซเชอรี่' พ่อเผยตร.ขอ7วันล่าคนร้าย ผู้นำชุมชนขู่บุกสน.โชคชัย

ญาติ-คนรู้จักเศร้า ร่วมงานเผาศพ "ไฮโซเชอรี่" พ่อเผยตร.ขอ7วันล่าคนร้าย ผู้นำชุมชนขู่นำชาวบ้าน100คนบุกสน.โชคชัย เหตุคดีไม่คืบหน้า

จากกรณีน.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มหาเกียรติ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และขนส่งรายใหญ่ ถูกคนร้ายลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตในพื้นที่สน.โชคชัย ก่อนทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายอัศยา หรือโก้ ชัยภา อายุ 33 ปี คนสนิท ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ซึ่งขณะนี้ยังคงหลบหนีโดยเชื่อว่าไปยังประเทศกัมพูชา

ที่เมรุวัดบางบัว ล่าสุดเมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 5 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ร่วมกันจัดเตรียมพิธีงานฌาปนกิจศพน.ส.ธิติมา โดยมีแขกเหรื่อผู้มีเกียรติต่างเดินทางเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมากท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด ก่อนจะมีการจัดพิธีฌาปนกิจศพในเวลา 17.00 น. ที่จะถึงนี้

ด้านนายอำนวย วิชัยโชติ อายุ 67 ปี บิดาน.ส.ธิติมา กล่าวว่า ขณะนี้ได้ปรึกษาเรื่องคดีความกับทางพล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 เป็นที่เรียบร้อยโดยได้ข้อมูลว่า ทางเจ้าหน้าที่ขอเวลาทำงานในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุเป็นระยะเวลา 7 วัน นอกจากนี้ภายหลังจากงานฌาปนกิจศพจนเสร็จสิ้นทางญาติอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือว่าจะนำอัฐิไปลอยอังคารในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือจังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนนำไปไว้ที่วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ ซึ่งเป็นวัดจีนในจังหวัดกาญจนบุรีต่อไป

ด้านนางธันย์วรา เลิศรัตน์อังกูร อายุ 63 ปี ประธานสหกรณ์เคหสถานเพื่อที่อยู่อาศัยจำกัด ที่เคยร่วมงานกับนางสาวธิติมา ร่วมก่อสร้างอาคารที่พักของสหกรณ์ ในย่านชุมชนหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมและในพื้นที่ชุมชนวัดบางบัว เปิดเผยว่า รู้จักนางสาวธิติมาช่วงการก่อสร้างที่พักอาศัยของชุมชน เป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และยังเคยคุยกันว่าเมื่อเสร็จสิ้นการสร้างที่พักแล้ว นางสาวธิติมา จะจัดตั้งมูลนิธิช่วยเหลือเด็กและคนแก่ในชุมชน เพื่อเข้ามาช่วยเหลือดูแลเกี่ยวกับการศึกษาและสุขภาพ เพื่อให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ทางชุมชนทุกคนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ในวันอังคารที่ 7 สิงหาคมนี้ ที่จะครบกำหนดตามตำรวจแจ้งไว้ หากยังไม่มีความคืบหน้าจะนัดลูกบ้านที่สมัครใจไม่ต่ำกว่า 100 คน ไปติดตามความคืบหน้าที่ สน.โชคชัย เพราะไม่ต้องการให้คดีนี้เงียบหายไป

พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามจับกุมนายอัศยา ว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตามจับกุมตัวนายอัศยา เเละน้องชายอยู่ ซึ่งได้วางกำลังตามเส้นทางเข้า-ออกในจังหวัดที่ติดกับชายเเดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่เฉพาะที่เป็นจุดผ่านตม. ซึ่งรวมไปถึงเส้นทางที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีโดยใช้ช่องทางธรรมชาติอีกด้วย อีกทั้งได้วางกำลังตั้งเเต่ภาคอีสานลงมาเกือบทุกจังหวัด ส่วนเส้นทางการเงินของนายอัศยา ได้มีการเเจ้งอายัดบัญชีไว้หมดเเล้ว ซึ่งก่อนที่จะมีการอายัดบัญชีพบว่านายอัศยา ได้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสินประมาณ 5-6 พันบาท เเละมีการโอนเงินหลักหมื่นบาท ส่วนรายละเอียดเรื่องของตู้สาขาไหนนั้นในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนกรณีรางวัลนำจับนั้นมีผู้ประสงค์ไม่ออกนามจ่ายเงินค่าหัวให้หากมีผู้แจ้งเบาะแสจนไปสู่การจับกุมตัว เเต่ในการจับกุมทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างเงียบๆไม่ให้นายอัศยาไหวตัวทัน อีกทั้งคาดว่าคงหลบหนีไปได้ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์

ด้านพ.ต.ท.พสิษฐ์ สายชนม์ศักดิ์ รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ออกหมายเรียกนายอนุวัฒน์ ชัยภา อายุ 32 ปี น้องชายคนร้าย ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. ให้มาพบพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 12 ส.ค. หากยังไม่เข้ามาพบ จะทำการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หากยังไม่เข้ามาพบจะออกหมายจับตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 ข้อหา “ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ