นศ.อุเทนฯ เดินขบวน จี้ ผบ.ตร.เร่ง 7-8 คดี เพื่อนร่วมสถาบันถูกทำร้าย

นศ.อุเทนฯ เดินขบวน จี้ ผบ.ตร.เร่ง 7-8 คดี เพื่อนร่วมสถาบันถูกทำร้าย

นศ.อุเทนถวายกว่า 50 คนเดินขบวนเข้าสตช.เตรียมยื่นหนังสือผบ.ตร. จี้เร่งรัด7-8 คดี เพื่อนร่วมสถาบันถูกทำร้ายเจ็บ-ตาย เชื่อพ่อดิ่งศาลอาญาเอี่ยวปมสถาบันคู่อริ

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 61 นักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย จำนวนหนึ่ง และผู้ปกครองของนักศึกษาที่เสียชีวิต เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผ่าน พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล รองผู้บังคับการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ เพื่อเรียกร้องให้เร่งดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายที่ทำร้ายร่างเพื่อน พี่ น้อง ร่วมสถาบันจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมขอความเป็นธรรมคดีที่ศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้องนายธนิต คัฬหสุนทร หรือ เต้ นักศึกษาอุเทนถวาย ถูกแทงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2559 จนทำให้นายศุภชัย คัฬหสุนทร วัย 52 ปี บิดาเกิดความเครียด และน้อยใจ กระโดดจากชั้น 8 อาคารศาลอาญา รัชดาภิเษกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายเอ (ไม่เปิดเผยชื่อนามสกุลจริง) ระบุว่า วันนี้ได้นำหลักฐาน เป็นบันทึกประจำวันที่ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายเพื่อน พี่ น้องร่วมถาบัน จำนวน 7-8 คดี ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิต รวมทั้งสิ้น 3 ราย หนึ่งในนั้นคือนายธนิต เป็นรุ่นพี่ร่วมสถานบัน แต่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายที่เหลืออีก 1 คนได้ โดยส่วนตัวคิดว่าคดีดังกล่าวอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับสถาบันคู่อริ หลายคดีที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถคนตัวคนร้ายมาลงโทษได้ ทั้งที่เหตุเกิดใจกลางกรุงเทพฯ ที่ผ่านมาก็ร่วมกันหาหลักฐาน เพื่อช่วยแบ่งเบาครอบครัวเหยื่อ จึงอยากให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยกำชับและสั่งการให้เร่งรัดคดี ถ้าตำรวจยังไม่สามารถจับกุมได้ อาจจะทำให้คนร้ายเหิมเกริมมากขึ้น

พ.ต.อ.ธนวัตร ยืนยันว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีขั้นตอนการดำเนินการ หลังจากนี้จะมอบให้พื้นที่เกิดเหตุ ส่งรายละเอียดมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมอบให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลดูแลอย่างใกล้ชิด โดยประเด็นที่ผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตเป็นห่วง คือ ประเด็นความคืบหน้าของคดี และทางโรงพักในพื้นทีไม่เปิดเผยข้อมูลให้ทางผู้ปกครองทราบ

เบื้องต้นมีคดีที่ยังไม่คืบหน้า 3 พื้นที่ คือ พื้นที่สมุทรปราการ พื้นที่ปทุมวัน และพื้นที่ห้วยขวาง ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้เพียงคนเดียวทั้งนั้น จึงทำให้เป็นกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก เพราะเร็วๆ นี้ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว