กองปราบรวบ "เจษฎา" เอี่ยวเงินทอนวัดล็อต 3 หิ้วตัวจากเมืองคอนรุดสอบกองปราบ เร่งล่าอีก2รายสำคัญ ด้าน "ฐิติราช" ลั่น! หลักฐานชี้ใครเกี่ยวข้องจับดำเนินคดีทั้งหมด
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 3 สิงหาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป.นำกำลัง เข้าจับกุม นายเจษฎา วงศ์เมฆ อายุ 38 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง และเจ้าของร้าน “เจ.เอ.ซีซีทีวี” ตั้งอยู่เลขที่ 253/2 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิค กล้องวงจรปิด กล้องติดรถยนต์ เครื่องใช้สำนักงานและเครื่องกรองน้ำ ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 102/2561 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2561 ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือโดยทุจริต และสนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต จับกุมได้ที่ร้านดังกล่าว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้สืบสวนสอบสวนคดีทุจริตงบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หรือคดีเงินทอนวัด ต่อมาได้ประสานกำลังตำรวจ บก.ป.ติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ และดำเนินการขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเป็นลอตที่ 3 โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่และบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แม้ว่าบางรายยังคงหลบหนี ซึ่งเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา กำลังเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ 8 จาก 11 ราย ได้แก่ 1.นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ. 2.นายแก้ว ชิดตะขบ ผอ.พศ.จ.อ่างทอง 3.นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี อดีต พศ.จ.นครปฐม 4.นายบุญเลิศ โสภา ผอ.พศ.จ. ลำปาง 5.นายชยพล พงษ์สีดา อดีต รอง ผอ.พศ. 6.นางพรเพ็ญ กิติธรางกูร ผอ.กลุ่มระบบพัฒนาระบบบริหาร พศ. 7.นายณรงค์เดช ชัยเนตร ผอ.พศ.จ.สิงห์บุรี และ 8.นายวสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ ผอ.ส่วนบรูณะพัฒนาวัด พศ.ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด คุมตัวฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตฯ ไปแล้ว
อย่างไรก็ดี สำหรับนายเจษฎา นั้น ได้หลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช กระทั่งในวันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ ผกก.5 บก.ป.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้ดังกล่าว ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ป.โดยผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัด ลอตที่ 3 คงเหลือเพียง น.ส.ประนอม คงพิกุล อดีตรอง ผอ.พศ.ที่น่าจะหลบหนีออกนอกประเทศแล้ว และ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ.ผู้ต้องหารายสำคัญ ซึ่งถือเป็นตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังคดีทั้งหมด ซึ่งทราบข้อมูลว่าหลบหนีอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.เดินทางมายัง บก.ป.เพื่อร่วมประชุมคณะทำงานติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีในความรับผิดชอบของ บช.ก.โดย พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า สำหรับคดีเงินทอนวัดนั้น ตนได้กำชับให้คณะทำงานทั้งในส่วนของ บก.ปปป.และ บก.ป.เร่งรัดดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบ ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ได้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีเพื่อให้คดีนี้มีความสมบูรณ์ ขั้นตอนที่ผ่านมาเราเร่งดำเนินการตลอด แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานไปก่อน
พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวต่อว่า คดีที่เกิดขึ้นและผู้ต้องหาที่มีการจับกุมตัวได้แล้วนั้น เราจะทำให้เป็นแบบอย่างว่าเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้ที่คิดกระทำการทุจริต ไม่ว่าจะสังกัดกระทรวง ทบวง กรมไหน ก็ต้องตระหนัก และจัดการกับปัญหาเหล่านี้ คดีนี้จะเป็นกรณีศึกษา สิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรจะต้องถูกจัดการจากนี้ไป ส่วนการจับกุมนายเจษฎา ในวันเดียวกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานชัดเจนจึงขออำนาจศาลออกหมายและจับกุมตัวมาดำเนินคดี ส่วนรายละเอียดว่าเกี่ยวข้องในประเด็นไหน อย่างไร ขอยังไม่เปิดเผย รวมทั้งการดำเนินการหลังจากนี้ไม่ว่าจะเป็นการขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม ซึ่งคณะทำงานจะพิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่พบ หากเชื่อมโยงถึงผู้ใดไม่ว่าเป็นพระสงฆ์หรือไม่ ก็จะดำเนินคดีทั้งหมด