บาททรงตัวหลังเฟดคงดอกเบี้ย มองขาขึ้นดอลลาร์มีจำกัด

บาททรงตัวหลังเฟดคงดอกเบี้ย มองขาขึ้นดอลลาร์มีจำกัด

"กรุงศรี" เผยบาททรงตัว หลังเฟดคงดอกเบี้ยตามคาด มองขาขึ้นดอลลาร์มีจำกัด

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ลงมติด้วยเสียงเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วง 1.75-2.00% ตามความคาดหมายของตลาด หลังสิ้นสุดการประชุมวันที่ 31 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม โดยเฟดระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในภาวะแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงการจ้างงาน การใช้จ่ายภาคครัวเรือน และการลงทุนของภาคธุรกิจ ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2% ทั้งนี้ เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 7 ของวัฎจักรคุมเข้มนโยบายการเงินที่เริ่มต้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2558 ขณะที่สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายน 2561

ในช่วงเปิดการซื้อขายในประเทศเช้านี้ เงินบาททรงตัวที่ระดับ 33.15 ขณะที่สกุลเงินภูมิภาคปรับตัวไร้ทิศทางเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ อนึ่ง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวใกล้ระดับ 3.00% อีกครั้ง ส่วนราคาทองคำปรับลดลง ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าลงราว 1.7% ในปีนี้ แต่ยังเป็นอัตราการอ่อนค่าน้อยกว่าสกุลเงินอื่นๆ ในอาเซียน ยกเว้น เงินริงกิตมาเลเซีย ขณะที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายในภาพรวมยังคงผันผวนท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

เราตั้งข้อสังเกตว่าคำวิจารณ์จากประธานาธิบดีทรัมป์ต่อการดำเนินนโยบายของเฟด ไม่ได้ส่งผลให้ท่าทีของเฟดเปลี่ยนแปลงไป โดยเฟดยังคงแสดงความเชื่อมั่นและปรับเพิ่มมุมมองเชิงบวกขึ้นเล็กน้อยต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ขณะที่เราคาดว่าเฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกันยายนและธันวาคมนี้ อย่างไรก็ดี เรามองว่าทิศทางขาขึ้นของเงินดอลลาร์จากระดับปัจจุบันค่อนข้างจำกัด ท่ามกลางภาวะที่ดอกเบี้ยสหรัฐฯ กำลังเคลื่อนไหวเข้าใกล้ Neutral Rate ทำให้แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในปี 2562 ยังคลุมเครือ ในทางกลับกัน มีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ทางการไทยจะเริ่มต้นปรับสมดุลนโยบายการเงินก่อนสิ้นปีนี้ ส่วนปัจจัยชี้นำถัดไปสำหรับตลาดการเงินโลกในช่วงสั้น ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ในค่ำวันนี้ และการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ ในวันที่ 3 สิงหาคม