“พ่อ-น้องชาย” ไฮโซเชอรี่ เข้าให้ปากคำตำรวจ เผยพฤติกรรม “โก้” ไม่น่าไว้ใจตั้งแต่แรก ด้านผู้การ 4 คาดทำเป็นขบวนการ เตรียมออกหมายจับเพิ่ม
จากกรณีพบศพ น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี ไฮโซสาวนักธุรกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มหาเกียรติ พร็อพเพอร์ตี้จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และขนส่งรายใหญ่ รวมถึงเป็นเจ้าของกิจการปั้มน้ำมันอีก 3 แห่ง ภายในห้องพักเลขที่ 2702 ชั้น 7 โรงแรมกรีนพ้อยท์ เรสซิเด้นท์ ซอยประดิษฐ์มนูธรรม 19 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. สภาพศพนั่งกับพื้นหน้าฟุบกับขอบเตียง สวมชุดนอนสีเขียว มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่บริเวณขมับขวาจนกะโหลกยุบ ใกล้กันพบไม้เบสบอลเปื้อนเลือดตกอยู่บนเตียง 1 อัน นอกจากนี้ยังพบว่ารถเบนซ์ รุ่นอี 220 สีบรอนซ์ ทะเบียน 6 กฒ 1937 กทม. ของผู้ตายถูกคนร้ายขับหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งศาลอาญารัชดาได้อนุมัติหมายจับศาลอาญาที่ 1704/2561 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” กับนายอัศยา หรือโก้ ชัยภา อายุ 33 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี
ล่าสุดที่ สน.โชคชัย วันที่ 2 สิงหาคม นายอำนวย วิชัยโชติ พ่อและนายบัณฑิต ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ น้องชายคนสุดท้อง ของ น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อให้ปากคำ
โดยนายบัณฑิตเปิดเผยว่า วันนี้ได้มารับทรัพย์สิน กระเป๋า กุญแจ รถเบนซ์ เอกสารบางส่วน ส่วนทรัพย์สินที่หายไปเพิ่มเติม มีสร้อยข้อมือ กำไรทอง แหวนทอง เงินจำนวน 2 แสนบาท ส่วนจำนวนเงิน 2.7 ล้าน ตนเองก็ไม่ทราบว่ามาจากไหน ส่วนที่ไปตรวจสอบห้องพัก ก็ไม่พบเงินจำนวนดังกล่าวนี้อยู่ด้วย
ขณะที่นายอำนวย เปิดเผยว่า อยากให้คนร้ายเข้ามอบตัวโดยเร็ว ซึ่งตนประเมินตั้งแต่แรกแล้วว่า ชายคนนี้ไม่น่าไว้ใจ และรับไม่ได้กับการกระทำของคนร้าย
ด้านพล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี จากการสืบสวน เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายสามารถเดินทางเข้าออกฝั่งชายแดนได้ โดยใช้ช่องทางธรรมชาติ ทั้งนี้ได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านในการติดตามตัวแล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี ส่วนจะมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านช่วยเหลือในการหลบหนีหรือไม่นั้น จากข้อมูลคร่าวๆ ทราบว่าผู้ต้องหาไม่ค่อยได้เดินทางไปบริเวณดังกล่าว อาจจะไม่รู้จักหรือสนิทสนมกับผู้มีอิทธิพลเท่าที่ควร ขณะที่การก่อเหตุเชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ เนื่องจากมีผู้ให้การสนับสนุนพาผู้ต้องหาหลบหนี ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมออกหมายจับเพิ่มเติม ส่วนหากผู้ต้องหาขัดขืน เจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการตามกฎหมายต่อไป ขณะที่ทรัพย์สินของผู้ตาย ตรวจสอบแล้ว พบว่ามีบัตรเอทีเอ็ม กระเป๋าสตางค์ หายไปด้วย ส่วนภาพกล้องวงจรปิดที่เปิดเผยจากโรงแรมแห่งหนึ่งในฝั่งกัมพูชา ยืนยันว่ามีคนร้ายอยู่ในภาพดังกล่าว แต่บุคคลที่เดินตามหลัง ยังไม่ขอยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ทางพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งให้เร่งรัดติดตามคดี และให้จับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ภายใน 7 วัน
ด้าน พ.ต.อ. สุพล คำ้ชู ผกก.สน.โชคชัย เปิดเผยถึงรถเบนซ์ รุ่นอี 220 สีบรอนซ์ ของผู้ตายถูกคนร้ายขับหลบหนีไป ตำรวจเตรียมนำมาเก็บรักษาไว้ที่ สน.โชคชัย เพื่อให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝงทั้งหมดแล้ว และให้ทางพ่อของผู้ตายมายืนยัน ว่าเป็นรถคันเดียวกับที่ผู้ตายใช้หรือไม่ ส่วนผลทางการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ไม้เบสบอล และวัตถุพยานที่เกิดเหตุ ที่ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บไว้นั้น จะทราบผลลายนิ้วมือภายใน 5-7 วัน ส่วนผลดีเอ็นเอ จะเร่งให้เร็วที่สุดประมาณ 10-14 วันจึงจะทราบผล