“หัวเว่ย”นั่งแท่นสมาร์ทโฟนเบอร์ 2 โลก

“หัวเว่ย”นั่งแท่นสมาร์ทโฟนเบอร์ 2 โลก

ยอดขายสมาร์ทโฟนแบรนด์จีน “หัวเว่ย” เบียดแอ๊ปเปิ้ล ที่ร่วงลงไปอยู่อันดับสาม ขยับใกล้ซัมซุง

ผลวิจัยตลาดของ อินเตอร์เนชันแนล เดตา คอร์เพอเรชัน (ไอซีดี) คานาลิส และ ไอเอชเอส มาร์กิต พบว่า หัวเว่ย ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของจีน ขายโทรศัพท์ จำนวน 54.2 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นกว่า 40% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ตัวเลขนี้ไม่เพียงแซง แอ๊ปเปิ้ล ผู้ผลิตไอโฟน ขึ้นเป็นสมาร์ทโฟนที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดอันดับสองของโลก แต่ยังลดช่วงห่างจากซัมซุง ยักษ์ใหญ่สมาร์ทโฟนเกาหลีใต้ ที่มียอดขายไตรมาสเดียวกัน 70 ล้านเครื่อง ลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอีกด้วย

เป็นครั้งแรกนับจากปี 2553 ที่แอ๊ปเปิ้ลไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง 1 หรือ 2 ในตลาดสมาร์ทโฟน ซึ่ง บริษัทคานาลิส ระบุว่าตำแหน่งของหัวเว่ย ได้จากยอดขายสมาร์ทโฟนพี20 และความสำเร็จของยี่ห้อ ออร์เนอร์ แบรนด์ลูกของหัวเว่ย โดยส่งออกสมาร์ทโฟนออร์เนอร์ถึง 4 ล้านเครื่องในไตรมาสสอง เพิ่มขึ้น 150% จากปีที่แล้ว

ไรอัน ไรท์ นักวิเคราะห์ไอดีซี ระบุในแถลงการณ์ว่า หัวเว่ยมีอัตราขยายตัวน่าประทับใจ โดยเฉพาะความสามารถในการเข้าสู่ตลาดที่แบรนด์เพิ่งเป็นที่รู้จักไม่นาน และ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สื่อสารยักษ์ใหญ่ของจีน ก้าวสู่ตำแหน่งอันดับสองได้ ทั้งที่ยังมีปัญหาในการทำธุรกิจในตลาดสหรัฐอเมริกา หลังเจ้าหน้าที่วิตกว่ารัฐบาลจีนอาจใช้เทคโนโลยีของหัวเหว่ย สอดแนม แม้ว่าหัวเหว่ยบริษัทปฏิเสธหลายครั้ง

หัวเว่ยพลาดทำความตกลงเป็นหุ้นส่วนครั้งแรกกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของสหรัฐอย่าง เอทีแอนด์ที หลังจากการเจรจาล่มในนาทีสุดท้ายซึ่ง การได้เอทีแอนด์ทีหนุนหลัง จะเป็นกุญแจในการเจาะตลาดสหรัฐแต่ถึง แม้จะล้มเหลวในการเป็นหุ้นส่วนกับเอทีแอนด์ที แต่หัวเว่ยก็ปรับตัวได้ไว หันมากระตุ้นยอดจำหน่าย และการขายโทรศัพท์ราคาไม่แพงหลายล้านเครื่องในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ถือว่าไปได้ดีสำหรับหัวเว่ย ยอดขายเพิ่มเท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งยังมีอัตราขยายตัวแข็งแกร่งในยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา

ความสำเร็จในธุรกิจสมาร์ทโฟน มีขึ้นขณะหัวเว่ยเผชิญแรงต้านอย่างมีนัยสำคัญในธุรกิจโทรคนาคมของบริษัท โดยนอกจากสหรัฐแล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และแคนาดา ต่างก็เตือนความเสี่ยงด้านความมั่นคงจากการใช้อุปกรณ์สื่อสารของบริษัทจีน