รวบหน.แก๊ง 'โมซัมบิก'อุ้มฆ่านักธุรกิจเรียกค่าไถ่ครั้งละ100ล. หนีซุกไทย

รวบหน.แก๊ง 'โมซัมบิก'อุ้มฆ่านักธุรกิจเรียกค่าไถ่ครั้งละ100ล. หนีซุกไทย

รวบหัวหน้าแก๊ง "โมซัมบิก" อุ้มฆ่านักธุรกิจเรียกค่าไถ่ครั้งละ 100 ล้าน หนีคดีซุกไทย3ปี-สั่งลูกน้องรัวยิงหัวอัยการ 16 นัดหลังถูกสั่งฟ้อง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 กรกฎาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอศ.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. พร้อม พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 และ พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. ร่วมกันจับกุมคัว นายโมมาเด้ อาซีฟ อับดุล ซาต้า (Momade Assif Abdul SATAR) อายุ 35 ปี ชาว โมซัมบิก ผู้ต้องหารายสำคัญในฐานความผิดครอบครองอาวุธ ฆาตกรรม หนีคดีมากบดานในประเทศไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังประเทศสหรัฐอเมริกา ประสานมายังประเทศไทย ให้ช่วยติดตามตัว นายมอมส์เด้ ผู้ต้องหาตามหมายแดงของอินเตอร์โพล ในคดีอุกฉกรรจ์ ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ มีความผิดข้อหาครอบครองอาวุธ ฆาตกรรม และลักพาตัว ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของประเทศโมซัมบิกเป็นอย่างมาก โดยประเทศโมซัมบิกได้มีการประสานไปยัง FBI ประจำภูมิภาคแอฟริกา ให้ประสานไปยัง FBI ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ให้ได้ จนกระทั่ง FBI ประจำประเทศไทยได้รับข้อมูลดังกล่าว จึงได้ติดต่อประสานมานังกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางสารสนเทศและการกระทำผิดทางอาญาที่เป็นนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ซึ่งต่อมาทางสำนักงานตำรวจแห่งขาติได้มีหนังสือสั่งการ ตร.ลง. 5 กรกฎาคม 2561 ท้ายหนังสือ ตม.ที่ 0002.3/4490 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2561 เรื่อง ทางการสหรัฐอเมริกาประสานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องหาชื่อ นายโมมาเด้ อาซีฟ อับดุล ซาต้า (Momade Assif Abdul SATAR) โดยมีหมายจับแดงของอินเตอร์โพล

รวบหน.แก๊ง 'โมซัมบิก'อุ้มฆ่านักธุรกิจเรียกค่าไถ่ครั้งละ100ล. หนีซุกไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่าจากการตรวจสอบพบ นายโมมาเด้ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยใช้หนังสือเดินทางระบุชื่อ นาย ซาฮิเม่ โมฮัมเหม็ด อาสลาม (MR.Sahime Mohammad Aslam) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการติดตามตัว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่า นายโมมาเด้ ปรากฎตัวอยู่ที่ ล็อบบี้โรงแรมมาริออท ซ.สุขุมวิท 57 แขวงคลิงตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบหนังสือเดินทาง ซึ่งนายโมมาเด้ ไม่สามารถนำมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการควบคุมตัวและพิมพ์ลายนิ้วมือ แล้วส่งไปตรวจพิสูจน์ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับลายพิมพ์นิ้วมือตามหมายแดงของอินเตอร์โพล และพบว่าเป็นลายนิ้วมือเดียวกับผู้ต้องหาตรมหมายจับของอินเตอร์โพล การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นลักษณะบุคคลต้องห้ามตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง จึงเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเข้ามาอยู่ในประเทศไทยนาน 3 ปีแล้ว ภายหลังการจับกุมจึงได้นำตัวไปยัง กก.3 ศสส. สตม. เพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รวบหน.แก๊ง 'โมซัมบิก'อุ้มฆ่านักธุรกิจเรียกค่าไถ่ครั้งละ100ล. หนีซุกไทย

ทั้งนี้ทางการโมซัมบิก ยืนยันว่า ระหว่างที่ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศในระยะเวลาประมาณ 3 ปี ยังได้มีการสั่งให้องค์กรของตนดำเนินการลักพาตัวและเก็บค่าไถ่บุคคลต่างๆ ในประเทศโมซัมบิก และอีกหลายประเทศในทวีปแอฟริกา และยังแจ้งอีกว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นระดับหัวหน้าองค์กร จะสั่งการให้ลูกน้องไปลักพาตัวนักธุรกิจที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศโมซัมบิกเพื่อไปเรียกค่าไถ่ มากกว่า 50 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะเรียกค่าไถ่เป็นเงินประมาณ 100 ล้านบาท หากไม่ได้รับเงินจะฆาตกรรมเหยื่อ โดยมีเหยื่อถูกฆาตกรรมไปแล้ว 2 ราย และยังได้มีการทำร้าย และฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ของทางการโมซัมบิกและครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่ทำการสืบสวนเอาผิดกับองค์กรนี้ โดยเฉพาะอัยการที่สั่งฟ้องผู้ต้องหารายนี้ ได้ถูกฆาตกรรมโดยการยิงศีรษะถึง 16 นัด ทำให้เป็นที่หวาดกลัวของเจ้าหน้าที่รวมถึงประชาชนเป็นอย่างมาก

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยืนยันด้วยว่า จะแบล็คลิสต์ผู้ต้องหารายนี้ถาวร ไม่ให้เดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยได้อีก นกจากนี้ยังพบว่าระหว่างการจับกุมตัว มีการเสนอเงินสินบนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย โดยในวันนี้ไม่ขอพาตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคงระหว่างประเทศ โดยจะส่งตัวกลับประเทศโมซัมบิก ภายในสัปดาห์หน้า และจะขยายผลถึงลูกน้องที่อยู่ในประเทศไทยต่อไป