ผบ.ฉก.นราฯ ห่วง "ไฟใต้" ยังไม่ดับจริง เฝ้าระวังกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบฯ ผลิตเยาวชนทดแทน
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ พล.ต.สมพล ปานกุล รองแม่ทัพน้อยที่ 4 ในฐานะผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้ของฝ่ายรัฐในขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของปลายน้ำ หรือเป็นช่วงของการเข้าสู่การพัฒนา แม้สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้นเพราะมาตรการของรัฐ ในช่วงของต้นน้ำคือ การป้องกันปราบปราม และสถาปนาพื้นที่การรบได้เป็นผลสำเร็จ ทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบสูญเสียกำลังคนไปจำนวนมากและต้องใช้เวลาในการผลิตคนเพื่อทดแทน ต่างจากทหารที่เมื่อสูญเสียก็สามารถจัดคนเข้ามาแทนได้ทันที แต่ก็ยังมีความพยายามของผู้ก่อความไม่สงบในการปลูกฝังคนรุ่นใหม่โดยใช้หลักคำสอนศาสนาเข้ามาบิดเบือนในสถาบันการศึกษา แต่รัฐก็เฝ้าระวัง และเข้าไปสร้างแนวทางการศึกษาที่ถูกต้องให้เยาวชนและคนรุ่นใหม่แล้ว
"เรากำลังเข้าใกล้เป้าหมายในการสร้างความสบเรียบร้อยอย่างยั่งยืน หลังจากรัฐบาลเสียเงินเป็นแสนล้านในการแก้ไขปัญหามาหลายปีกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ฝ่ายรัฐถูกมองว่าค้าไฟใต้ แต่วันนี้ผมบอกได้เลยว่าการสู้รบของทหารในทุกสมรภูมิไม่เคยสูญเสียเท่านี้ และไม่ทีใครอยากสูญเสีย แม้วันนี้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ก็ไม่ใช่จะจบง่ายๆ จากสถิติลดลงก็จริง แต่จะดีจริงหรือไม่ก็ต้องดูต่อไป ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีเหตุเกิดขึ้น ถ้าคนในพื้นที่มองจะเห็นว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ส่วนหนึ่งก็เกิดจากมาตรการของเจ้าหน้าที่และความร่วมมือของประชาชน การก่อเหตุหลายจุดทั้งระเบิดเอทีเอ็ม เสาไฟฟ้าเมื่อเดือนก่อนเป็นความพยายามของกลุ่มก่อเหตุที่ต้องการแสดงศักยภาพ แต่วิธีการจะทำแบบง่ายๆ
พล.ต.สมพล กล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐต้องระวังไม่ให้เกิดขึ้น คือเงื่อนไขที่เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทหารพรานบางคนที่เคยถูกมองว่าพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในปัจจุบันได้เน้นย้ำในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีระเบียบ ไม่ให้กระทบกับความรู้สึกต่อคนในพื้นที่ รวมถึง อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) กำลังประจำถิ่นที่จะมีบทบาทแทนกำลังหลัก ซึ่ง กอ.รมน.ภาค 4 สน. จะฝึกอบรมให้มีระเบียบวินัย มีความเพรียบพร้อมทุกด้าน เช่น การฝึก ทรงผม เครื่องแต่งกาย เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งขอเวลาอีก 3 ปีในการฝึกเพื่อเป็นนักรบเชิงลับต่อไป