ปิดล้อมค้นแหล่งเที่ยว-ร.ร.สอนภาษา จับต่างชาติ35คนหลบหนีเข้าเมือง

ปิดล้อมค้นแหล่งเที่ยว-ร.ร.สอนภาษา จับต่างชาติ35คนหลบหนีเข้าเมือง

"บิ๊กโจ๊ก" นำกำลังปิดล้อมค้นตามแหล่งท่องเที่ยว-โรงเรียนสอนภาษา พบต่างชาติ Over Stay-หลบหนีเข้าเมือง 35 ราย ระบุเร่งปราบปรามทำให้ผู้ทำผิดน้อยลง

ที่โรงแรมนานาพลาซ่า สุขุมวิทซอย 4 เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 25 กรกฎาคม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 หน่วยอรินทราช 26 เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี บูรณาการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายจำนวน 62 เป้าหมายทั่วประเทศ ตามยุทธการ X-RAY OUTLAW FOREIGNER ครั้งที่ 18 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 35 ราย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยว่า การปฏิบัติการในวันนี้เป็นการปิดล้อมตรวจค้นตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ยุทธการดังกล่าวเป็นการร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ในการกวดขันจับกุมกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศโดยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเพื่อเข้ามาก่ออาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมที่กระทบกับความมั่นคงส่งผลต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย เช่น กลุ่มเครือข่ายปลอมบัตรเครดิต, กลุ่มเครือข่ายหลอกลวงแต่งงาน, กลุ่มชาวต่างชาติที่ตั้งตัวเป็นกลุ่มกระทำความผิดอาชญากรรมต่างๆ และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติยที่พักอาศัยอยู่ในประเทศโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง ซึ่งในปัจจุบันได้พัฒนาวิธีการกระทำความผิดซับซ้อน และหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่รัฐ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ผลการกวาดล้างสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดทั่วประเทศ จำนวน 35 ราย แบ่งเป็นความผิดข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยสิ้นสุดการอนุญาต” จำนวน 9 ราย สัญชาติอินเดีย 6 ราย จีน 1 ราย แคเมอรูน 1 ราย และ เยอรมัน 1 ราย ความผิดข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จำนวน 25 ราย สัญชาติลาว 7 ราย เมียนมา 5 ราย อินเดีย 5 ราย กัมพูชา 4 ราย ซีเรีย 1 ราย อียิปต์ 1 ราย เยเมน 1 ราย และ อูกันดา 1 ราย และความผิดข้อหาอื่นๆ จำนวน 1 ราย สัญชาติอินเดีย จากการตรวจสอบครั้งนี้ได้ทำการตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 62 เป้าหมาย แบ่งเป็นสถาบันสอนภาษา 3 เป้าหมาย โรงเรียนสามัญ 11 เป้าหมาย และเป้าหมายอื่นๆ 48 เป้าหมาย รวมยุทธการ 32 ครั้ง ตรวจค้นเป้าหมาย 4,009 เป้าหมาย จับกุมผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 1,757 ราย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ต้องเรียนว่าสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือในพื้นที่นานา เรื่องภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่ไม่ดี วันนี้ตนและผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีผลักดันเนรเทศ พร้อมทั้งขึ้นบัญชีแบล็คลิสต์ถาวรหมดแล้ว เดิมเมื่อก่อนจับมาแล้วปรับแล้วก็กลับมาทำงานใหม่ วันนี้ไม่มีแล้ว เมื่อเราจับกุมมากขึ้น ผู้กระทำความผิดลดลง ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าจับมาตลอดแล้วผู้กระทำความผิดยังเหมือนเดิมอยู่แสดงว่าการปราบปรามนั้นไม่ได้ผล เดิมเราจับกุมได้ครั้งนึงร้อยกว่าราย วันนี้สถิติการจับกุมเหลือแค่ 35 ราย เป็นสิ่งบ่งบอกได้ว่า การปราบปรามหรือการสกัดกั้นบุคคลเหล่านี้นั้นได้ผล ต้องฝากประชาชนคนไทยรวมถึงผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นโรงแรม อพาร์ทเม้น หรือเกสต์เฮาส์ ไม่ว่าจะเป็นการให้บุคคลต่างด้าวพักอาศัยจะต้องแจ้งการเข้าพักอาศัยต่อ ตม. ภายใน 24 ชม. ถ้าไม่แจ้งถือว่ามีความผิดทางอาญา