เอกชนพอใจผลประชุมเศรษฐกิจและสังคมอีสานล่าง 2

นายสมชาติ พงคพนาไกร ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยภายหลังการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 (อุบลราชธานี ยโสธร ศรีษะเกษ อำนาจเจริญ) โดยที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมว่า ภาคเอกชนพอใจภาพรวมการประชุมร่วมกับรัฐบาลโดยได้รับการอนุมัติโครงการที่สำคัญหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการขยายสนามอาคารสนามบินนานาชาติอุบลราชธานี เพื่อรองรับการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคอินโดจีน โดยภาคเอกชนได้ขอให้เลื่อนโครงการเร่งด่วนต่าง ๆ ที่เดิมมีแผนอนุมัติในปีงบประมาณ 2565 มาอยู่ในแผนงบประมาณ 2563 ประกอบไปด้วยโครงการ เพิ่มลานจอดเครื่องบินเพื่อรองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้น สะพานเทียบพร้อมส่วนต่อเติม รวมถึงอาคารจอดรถยนต์ และปรับปรุงต่อเติมร้านค้า ร้านอาหาร พร้อมขอให้ปรับปรุงและต่อเติมอาคารที่พักผู้โดยสารหลังเดิม รวมงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงคมนาคมให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของเอกชน

ส่วนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ที่สนามบินอุบลราชธานีภาคเอกชนยังคงขอรับการสนับสนุนงบประมาณในปี 2565 เช่นเดิมเนื่องจากในปัจจุบันสนามบินอุบลราชธานีมีอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยปีละ 1.8 ล้านคน มีเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 16 – 20 เที่ยวบิน เมื่อได้รับการอนุมัติให้ทำหลุมจอดเครื่องบินเพิ่ม อาคารผู้โดยสารเดิมยังสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพียงพอกับความจุของสนามบินที่รองรับได้กว่า 2.8 ล้านคน โดยคาดว่าในปี 2565 ผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นจนใกล้เต็มความจุการลงทุนเพิ่มในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีความจำเป็น

“ภาคเอกชนพยายามเสนอโครงการที่เป็นไปได้และมีความเร่งด่วน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อจำกัดในการอนุมัติงบประมาณของภาครัฐ บางโครงการเราก็ไม่ได้ของบประมาณแต่ขอให้มีเจ้าภาพมารับผิดชอบ ซึ่งโครงการของภาคอีสารตอนล่าง 2 ที่เกี่ยวกับการพัฒนาเกษตรกรรมก็ไม่ได้ของบประมาณเพิ่มในส่วนนี้ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รับไปเป็นเจ้าภาพดูการพัฒนางานด้านนี้ในพื้นที่”

นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานหอการค้าจังหวัด จ.ศรีสะเกษ และประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 กล่าวว่าโครงการด้านคมนาของพื้นที่อีสานล่าง 2 ส่วนใหญ่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมฯยกเว้นการทำเกาะกลางถนนที่นายกรัฐมนตรีให้ข้อสังเกตว่าขอให้ใช้แบริเอร์แทนการทำเกาะกลางถนนแบบถาวรเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ ลดงบประมาณในการก่อสร้าง ส่วนโครงการเกี่ยวกับระบบรางที่ประชุมมอบหมาให้ให้เพิ่มการศึกษาโครงการรถไฟทางคู่รถไฟจากสถานีวารินชำราบ - อำนาจเจริญ - เลิงนกทา เพื่อเชื่อมโครงการรถไฟทางคู่ “บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม” เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวทางด้านตะวันออกของภาคอีสานกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยกระทรวงคมนาคมจะของบประมาณในปี 2563

สำหรับโครงการก่อสร้างสนามบินพาณิชย์แห่งใหม่ที่มีการเสนอเข้ามาทั้งสนามบินมุกดาหาร และสนามบินยโสธร ได้ให้กระทรวงคมนาคมไปศึกษาเปรียบเทียบความเหมาะสมและความคุ้มค่าของทั้ง 2 สนามบิน โดยกระทรวงคมนาคมได้รับไปศึกษา แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ความเห็นว่าโครงการสนามบินที่มุกดาหารอาจจะมีความเหมาะสมมากกว่า