'สุริยะใส' แนะเตรียมรับมือปัจจัยใหม่ รับนโยบายจากข้างล่างมากขึ้น

'สุริยะใส' แนะเตรียมรับมือปัจจัยใหม่ รับนโยบายจากข้างล่างมากขึ้น

"สุริยะใส" แนะเตรียมรับมือปัจจัยใหม่ ปรับตัวเปิดพื้นที่ รับนโยบายจากข้างล่างมากขึ้น ต่อยอดแก้ปัญหาประเทศระยะยาว

นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงบรรยากาศการเตรียมการเลือกตั้งในขณะนี้

โดย "นายสุริยะใส" ผอ.สปท. เห็นว่าแม้จะยังไม่ชัดเจนถึงกรอบเวลาที่แน่นอน และช่วงเวลาของการปลดล็อค ที่ยังยากจะคาดการณ์ว่าจะเป็นช่วงใดก็ตาม แต่ในด้านหนึ่งนั้นก็เป็นโอกาสที่ดีของบรรดากลุ่มก้อนทางการเมือง ทั้งพรรคเก่าและพรรคใหม่จะได้ใช้โอกาสนี้ในการสรุปบทเรียนทางการเมือง รวมทั้งการตั้งโจทย์ใหม่ที่จะช่วยกันคลี่คลายปัญหาบ้านเมืองให้ออกจากความขัดแย้งการทุจริตคอร์รัปชั่นและการเมืองที่ล้มเหลวได้ นักการเมืองถือเป็นกลุ่มคนที่มีประสาทสัมผัสทางการเมืองไวและเร็วกว่ากลุ่มอื่นๆ ย่อมอ่านสถานการณ์สังคมการเมืองในขณะนี้ได้ดีที่สุดว่า โจทย์และประเด็นทางการเมืองในขณะนี้ มีปัจจัยอะไรบ้างที่เปลี่ยนไปและควรคำนึงถึง

"นายสุริยะใส" ยังกล่าวว่า การใช้ประสบการณ์แท็กติกและยุทธวิธีแบบเดิมนั้น อาจจะทำให้การเมืองเผชิญกับวิกฤติปัญหาที่สลับซับซ้อนหรือมีความรุนแรงมากขึ้นอีก ที่สำคัญอาจจะทำให้การเมืองเข้าใกล้ความเป็นสงครามถ้ายังติดอยู่ในถ้ำของความขัดแย้งจนไม่สามารถนำพาชาติบ้านเมืองต่อไปข้างหน้าได้

บทเรียนที่สำคัญประการหนึ่ง พรรคการเมืองมักคิดเตรียมการเลือกตั้ง เพื่อให้ชนะเลือกตั้งและร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อปันผลประโยชน์กันเท่านั้น จนทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายและไม่ไว้วางใจนักการเมืองมากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะกระบวนการจัดทำนโยบายสาธารณะของพรรคการเมือง หมดเวลาแล้วที่นักการเมืองจะคิดฝ่ายเดียว เชื่อเอง เออเอง ทำเอง หรือเป็นผู้รับเหมาทำแทนประชาชนไปเสียทั้งหมด

"ต้องคิดกันใหม่นโยบายสาธารณะ ควรมาจากข้างล่างมากขึ้น ฟังประชาชนมากขึ้น เพราะในช่วงวิกฤติการณ์ทางการเมือง เราเห็นความย่อยยับล้มเหลวหลายมิติ แต่ภาคส่วนของคนเล็กคนน้อยคนระดับล่างของสังคม ในสร้างปฏิบัติการใหม่ๆ เพื่อความอยู่รอดในหลายรูปแบบ เรื่องราวพวกนี้น่าศึกษาและสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการต่อยอดหรือยกระดับเป็นนโยบายแก้ปัญหาประเทศได้ในระยะยาว" ผอ.สปท. ระบุ