เครือข่ายฯสัญจรปลุกปชช.8จว.ภาคเหนือ รวมต้านป่าแหว่งส.ค.นี้

นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการการศึกษาการดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างเพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ กรณีก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ (อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่) มีข้อสรุปให้รื้อบ้านพักข้าราชการ 45 หลังทันที เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม สำหรับอาคารชุดจำนวน 9 หลัง คณะอนุกรรมการฯ มีข้อเสนอเป็น 2 แนวทางคือ ให้รื้อทันที และ ให้ดำเนินการสิ่งปลูกสร้างอย่างเหมาะสมทั้งนี้ต้องไม่มีผู้พักอาศัยและเข้าไปใช้ประโยชน์ จากข้อสรุปที่คณะอนุกรรมการได้ทำการสรุปนี้จะนำเสนอสู่คณะกรรมการระดับพื้นที่เพื่อพิจารณาส่งข้อสรุปไปคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ที่มีนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

ในระหว่างนี้ทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าได้เตรียมเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง ประมาณปลายเดือนสิงหาคม 61 ที่ผ่านมาได้สัญจรพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้นกับเวทีแกนนำ 8 จังหวัดภาคเหนือ ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)ที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง ซึ่งทางเครือข่ายฯ ได้ชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในบริเวณบ้านพักข้าราชการตุลาการ จ.เชียงใหม่ พร้อมทั้งเชิญชวนให้เข้าร่วมในการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป คาดว่าในเดือนสิงหาคม 2561 นี้ จะมีคนเข้าร่วมทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพเพิ่มมากกว่าครั้งที่มีการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกันทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้โพสต์ในเพจ “เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา “เรื่องช่องทางสื่อสารอย่างเป็นทางการ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ขอประกาศให้ทราบว่า ช่องทางการสื่อสารอย่างเป็นทางการของเครือข่ายประกอบด้วย 1.เว็ปไซด์ www.welovedoisuthep.com 2. Facebook “เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” www.facebook.com/lovedoisuthep 3.Official line : @welovedoisuthep ช่องทางทั้งสามมาจากมติของที่ประชุมแกนนำเครือข่ายโดยตรง ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพในห้วงเวลาเตรียมการยกระดับการรณรงค์เคลื่อนไหว อย่างไรก็ตามทางเครือข่ายยังมีช่องทางสื่อสารอื่นจากภาคีพันธมิตร รวมถึงช่องทางสื่อสารส่วนตัวของแกนนำและผู้สนับสนุน เครือข่ายฯ ขอย้ำว่าการรณรงค์ทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพเป็นวาระร่วมกันของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มทุกเหล่าทั่วประเทศ หากมีองค์กรหรือคณะอื่นใดที่สื่อสารรณรงค์ขับไล่ป่าแหว่งเอาดอยสุเทพกลับคืนมาล้วนเป็นเรื่องน่ายินดีทั้งสิ้น การที่เครือข่ายประกาศช่องทางสื่อสารอย่างเป็นทางการ ก็เพื่อให้เกิดความชัดเจน ลดความเข้าใจผิดและเพื่อประสิทธิภาพในการรณรงค์เคลื่อนไหวเป็นสำคัญ”