เจาะสนามเลือกตั้ง อดีตส.ส.เพื่อไทยพาเหรดรับ 'ประยุทธ์' สัญจร

เจาะสนามเลือกตั้ง อดีตส.ส.เพื่อไทยพาเหรดรับ 'ประยุทธ์' สัญจร

รายงาน - เจาะสนามเลือกตั้ง อดีตส.ส.เพื่อไทยพาเหรดรับ "ประยุทธ์" สัญจร

การมาเยือนขอบครม.สัญจรเมืองอำนาจเจริญและอุบลราชธานี ที่ส.ส.เพื่อไทยยึดหัวหาดอยู่แม้จะมี ส.ส.ประชาธิปัตย์และพรรคอื่นแซมเข้ามาบ้าง แต่ก็เพื่อไม่ทำให้ “ชื่อพรรคอื่น”ในอีสานหายไป และการมาเยือนครั้งนี้ก็ทำให้หลายคนหวั่นใจว่า อดีตส.ส.“ประชาธิปัตย์” ที่เหลือน้อยมาก จะย้ายขั้วหรือไม่


การลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.) วันที่ 23 – 24 กรกฎาคม 2561 ที่อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ดูเหมือนไม่มีใครเชื่อว่าจะเป็นการไปลงพื้นที่เพื่อดูสารทุกข์สุกดิบของประชาชนทั้งสองจังหวัดและย้ายสถานที่เพื่อไปประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเดียวเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาการลงพื้นที่แต่ละครั้งเหมือนเป็นการไปเช็คกระแสโชว์ตัว และเช็คพลังดูดไปในตัว ส่วนจะดูดอะไรนั้นก็คงหนีไม่พ้นการดูดส.ส.ในพื้นที่

โดยเฉพาะการมาเยือนเมืองอำนาจเจริญและอุบลราชธานี ที่ส.ส.เพื่อไทยยึดหัวหาดอยู่ แม้จะมีส.ส.ประชาธิปัตย์และพรรคอื่นแซมเข้ามาบ้าง แต่ก็เพื่อไม่ทำให้ “ชื่อพรรคอื่น” ในอีสานหายไป และการมาเยือนครั้งนี้ก็ทำให้หลายคนหวั่นใจว่า อดีตส.ส. “ประชาธิปัตย์” ที่เหลือน้อยมาก จะย้ายขั้วหรือไม่

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ท่าทีของประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะเจ้าถิ่นอย่าง “สุทัศน์ เงินหมื่น” แม้จะมีกระแสออกมาก่อนหน้านี้ว่าอาจจะย้ายพรรค แต่ก็ยังไม่มีคำยืนยันอะไรออกมา เพราะหาก “สุทัศน์” ย้ายไป อาจจะไม่เหลือชื่อประชาธิปัตย์ในแผ่นดินอีสานให้คนได้รู้จักเลย

แต่ก่อนที่จะรู้ว่า “สุทัศน์ เงินหมื่น” จะตัดสินใจอย่างไร ตอนนี้อดีตส.ส.เพื่อไทยในพื้นที่ อุบลราชธานี 3 คนก็ตัดสินใจย้ายมาสังกัดพรรคใหม่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สุพล ฟองงาม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, สุทธิชัย จรูญเนตร อดีตส.ส.อุบลฯเขต 5 พรรคเพื่อไทย และ อดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย (ระบบบัญชีรายชื่อ) ซึ่งได้เข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ ก็เตรียมต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะอย่างเต็มที่ ตอนแรกบอกจะมีการนัดประชุมผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อพบปะพูดคุยที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานีด้วย แต่พอมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากเข้าเลยตัดสินใจ “เข้าหลังบ้าน” จะขอไปพบนายกฯที่มณฑลทหารบกที่ 22 แทน เพื่อลดการจับตาและกระแสวิพากษ์วิจารณ์เพราะอย่างไรพื้นที่นี่ก็เป็นพื้นที่สีแดงที่หลายคนจับตามองอยู่แล้ว

นอกจากนั้น ขณะนี้มีการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐทั้ง 10 เขตของเมืองอุบลราชธานีเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งประกอบด้วย นายอดุลย์ นิลเปรม อดีต ส.ส.ระบบสัดส่วน(พรรคไทยรักไทย (ทรท.) นายโกวิทย์ ธรรมมานุชิต ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลฯ, นายณรงค์ศักดิ์ โกศัลวัฒน์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ,นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ ส.จ.เขต ตระการพืชผล (บุตรชาย นายอดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย) นายสุชาติ ตันติวณิชชานนท์ อดีต ส.ส.ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน, นางสาวตวงทิพย์ จินตะเวช (ลูกสาว นายตุ่น จินตะเวช อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา) และนายธนัญชัย โควสุรัตน์ (พี่ชายนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย) ซึ่งเมื่อดูหน้าดูตาแล้ว ก็พอดูออกว่าเป็นกลุ่มก้อนของเพื่อไทยอีกขั้วที่ย้ายกันมาทั้งยวง

โดยก่อนหน้านี้ นายสุพล ฟองงาม อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พร้อมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดการจัดการประชุม ครม.สัญจรครั้งที่ 5/2561 ที่จังหวัดอุบลฯและตรวจราชการระหว่าง 23-24 ก.ค. ซึ่งแขกมาเยือนก็ต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี หากทางจังหวัดเชิญไปร่วมต้อนรับพลเอกประยุทธิ์ พร้อมคณะ ก็จะเดินทางไปร่วม ซึ่งการเดินทางมาประชุม ครม.สัญจรที่อุบลฯจะมีประโยชน์กับพี่น้องชาวอุบลราชธานีที่จะได้มีโอกาสของบประมาณในการนำมาพัฒนาจังหวัด

ส่วนประเด็นที่ทางจังหวัดเตรียมเสนอการประชุมครม.สัญจรในครั้งนี้ ได้เตรียมเอาไว้หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น 1. สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 6 ระหว่างบ้านปากแซง ตำบลพะลาน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี กับบ้านปากตะพาน เมืองละคอนเพ็ง แขวงสาละวัน สปป.ลาว 2. เส้นทางรถไฟรางคู่จากจังหวัดนครราชสีมา – จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการขนส่งสินค้าจากภูมิภาคอื่น เพื่อส่งต่อมายังจังหวัดอุบลราชธานี และส่งต่อไปยัง สปป.ลาวและเวียดนาม รวมทั้งการขนส่งสินค้าจากเวียดนามและ สปป.ลาว เข้ามายังจังหวัดอุบลราชธานีและ ส่งต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ ต่อไป 3.ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า เพื่อเป็นจุดพักรวมสินค้าทั้งของฝ่ายไทยที่จะส่งออกไปยัง สปป.ลาวและเวียดนาม และสินค้าที่นำเข้ามาจาก สปป.ลาว และเวียดนามก่อนที่จะกระจายสินค้าออกไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าดังกล่าวควรก่อสร้างในพื้นที่ใกล้เคียงกับสถานีรถไฟอุบลราชธานี (อำเภอวารินชำราบ) เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าผ่านทางรถไฟรางคู่

4.ก่อสร้างถนน 4 เลน จากจังหวัดอุบลราชธานี – บ้านปากแซง ตำบลพะลาน อำเภอนาตาล(จุดที่ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 6 ) ระยะทางประมาณ 115 กิโลเมตร ซึ่งการก่อสร้างถนน 4 เลน ดังกล่าว หากดำเนินการแล้วเสร็จจะเป็นการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งจากสถานีรถไฟอุบลราชธานี ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า รวมทั้งพื้นที่การผลิตและการจำหน่ายต่างๆ ในพื้นที่ ไปยังสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 6 ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ส่งผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจการค้าและการลงทุนในภาพรวม 5.โครงการการก่อสร้างศูนย์กีฬาเพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ SEA GAMES ครั้งที่ 33 ในปี 2025 หรือ พ.ศ.2568 (งบประมาณ 2,000 ล้านบาท) 6.โครงการขยายพื้นที่และเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (งบประมาณรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,155,460,000 บาท)

และ 7. โครงการต่อสายเส้นทางรถไฟรางคู่ อุบลราชธานี - ช่องเม็ก (งบประมาณประมาณการ 9,700 บาท) สำหรับอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.อุบลราชธานี ที่ยืนยันชัดเจนว่าจะคงอยู่กับพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรค, นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์, นายกานต์ กัลป์ตินันท์ (ระบบบัญชีรายชื่อ)นายสมบัติ รัตโน ,นายปัญญา จินตะเวช , ,นายพิสิษฐ์ สันตพันธุ์,และนายสมคิด เชื้อคง ส่วนนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ จะขอวางมือทางการเมืองสนามใหญ่โดยจะลงสมัครนายก อบจ.อุบลฯ

ส่วนจังหวัดเล็ก ๆ 2 เขตเลือกตั้งอย่างอำนาจเจริญนั้น การเลือกตั้งครั้งล่าสุด ที่ไม่มีโอกาสประกาศรับรองการเป็นส.ส. พบว่าพรรคเพื่อไทยยึดหัวหาดทั้งสองเขตแล้ว แต่พอมีกระแสพรรคพลังประชารัฐเข้ามา ทำให้ จันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี ได้ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐและเตรียมลงสมัครในเขต 2 ส่วนเขต 1 นายบวรศักดิ์​ คณาเสน อดีตสว.อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นขุมกำลังของตระกูลคณาเสน เจ้าของโรงสีข้าวใหญ่ที่สุดในอำนาจเจริญก็จองลงเลือกตั้งในเขต 1 เอาไว้แล้ว

ในขณะที่กระแสพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ เจ้าถิ่นอย่าง “สุทัศน์ เงินหมื่น” ยังนิ่งเงียบ แต่เตรียมส่งลูกชายคือ “อภิวัฒน์ เงินหมื่น” ลูกชายลงเลือกตั้งในเขต 2 ส่วนเขต 1 ประชาธิปัตย์น่าจะส่งบุตรสาวทายาทนายไพศาล จันทวารา อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองนายกอบจ.อำนาจเจริญที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี เพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในการเลือกตั้งนายกอบจ.ที่ผ่านมา

“ในอำนาจเจริญ คงไม่เรียกว่าดูดแต่มีนักการเมืองหน้าใหม่พร้อมพาเหรดเข้าพรรคพลังประชารัฐ และประชาชนในพื้นที่เองก็ไม่ได้สนใจเรื่องดูดส.ส.แต่อย่างใดนัก เพราะจังหวัดนี้มีธรรมนูญเป็นของตนเองและเป็นจังหวัดที่ประกาศเป็นจังหวัดจัดการตนเอง มีความคิด และมีแนวทางเป็นของตนเอง หากผู้สมัครดีพอ เขาก็จะเลือกคนนั้นไม่ได้สนใจใครดูดใครหรือไม่ แต่ตอนนี้บรรยากาศในจังหวัด มีส.ส.เพื่อไทยหลายคนอยากจะออกมาต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะแต่ไม่สามารถทำแบบชัดเจนได้ เพราะมีกระแสถล่มจากส.ส.ในพื้นที่ที่ประกาศผ่านเฟซบุ๊กเตรียมประนามกันแล้ว ทำให้อดีตส.ส.หลายคนทำได้เพียงซื้อน้ำแจกชาวบ้านที่จะมาต้อนรับนายกฯเท่านั้น” แหล่งข่าวในพื้นที่กล่าว

สำหรับข้อเสนอของจังหวัดอำนาจเจริญที่เตรียมเสนอการประชุมครม.สัญจรครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญประกอบด้วย 1.ขุดลอกอ่างพุทธอุทยานซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของอำนาจเจริญ 2.การขอสนับสนุนงบประมาณปรับปรุงสนามกีฬาที่มีอยู่แล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จ 3.ของบประมาณสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาและปรับภูมิทัศน์สนามกีฬาที่อยู่บริเวณศูนย์ราชการที่ 1 ให้ใช้งานได้และของบประมาณไปต่อยอดส่งเสริมการปลูกสมุนไพรและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น พร้อมกับยึดโมเดลของ “อภัยภูเบศร์”ในการผลิตยาสมุนไพรออกสู่ตลาด

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม วันจันทร์อังคารนี้ การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี คงทำให้ฝ่ายที่จับตามองการเมืองอีสานไม่กระพริบตาแน่นอน เพราะทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นได้ ขนาดแดงนปช.ยังย้ายข้าง แล้ว ส.ส.ที่คิดต่างจะไม่ย้ายพรรคได้อย่างไร