ดอลล์อ่อนค่าหนุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น

ดอลล์อ่อนค่าหนุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น

ทรัมป์ทวีตว่าสหรัฐไม่ควรถูกทำโทษเพราะเศรษฐกิจกำลังไปได้ดี การขึ้นดอกเบี้ยในขณะนี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เราได้ทำ สหรัฐควรได้รับโอกาสในการรับสิ่งที่สูญเสียไปจากการที่ประเทศอื่นปั่นค่าเงิน และทำข้อตกลงที่เอาเปรียบสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันศุกร์ (20ก.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวขึ้น โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาจีนและสหภาพยุโรปกำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่เมื่อพิจารณาทั้งสัปดาห์ ราคาน้ำมันได้ร่วงลงจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ซึ่งจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์  เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 1.4%  ปิดที่ราคา 70.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดตลาดที่ 73.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้สัญญามีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น โดยเมื่อเวลา 20.17 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.55% สู่ระดับ 111.83 เยน ขณะที่ยูโรขยับขึ้น 0.04% สู่ระดับ 130.98 เยน และดีดตัวขึ้น 0.60% สู่ระดับ 1.1707 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.58% สู่ระดับ 94.60

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ กล่าวหาว่า จีนและสหภาพยุโรปกำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

“จีนและสหภาพยุโรป และประเทศอื่นๆ ได้ทำการปั่นค่าเงิน และปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สหรัฐกำลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และดอลลาร์กำลังแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆในแต่ละวัน ทำให้สหรัฐสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการที่ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ โดยได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกครั้งหนึ่ง