ไปไหนไม่ไกล

ไปไหนไม่ไกล

SET Index วานนี้ยังปรับขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางตลาดหุ้นต่างประเทศที่เป็นบวกและลบ

โดยยังไม่มีประเด็นด้านสงครามการค้าเพิ่มเติม แต่ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันเป็นบวกต่อ ENERG ตามมาด้วยการ Rebound ของ TRANS หลังสะท้อนประเด็นการท่องเที่ยวไปมากแล้ว และแรงเก็งกำไรผลประกอบการ 2Q61 อย่างกระจัดกระจาย  ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,646.89 จุด (+11.04 จุด) Volume 4.23 หมื่นลบ. มาจาก Foreign Net -422.31 ลบ. TFEX Net   +11,671 สัญญา ตราสารหนี้ -1,043.90 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย  

+น้ำมันดิบปิดบวกโดยได้แรงหนุนจากซาอุดิอาระเบียเตรียมลดการส่งออกน้ำมันในเดือนหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดที่สูงเกินไป

+"ทรัมป์"ออกโรงวิพากษ์เฟด พูดชัดไม่พอใจนโยบายขึ้นดอกเบี้ย หวั่นฉุดเศรษฐกิจสหรัฐสะดุด

+ผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐลดลง 8,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512  ขณะที่ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.5% โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน

+ เอดีบีปรับ GDP ไทยปี 61 เพิ่มเป็น 4.2% จากเดิม 4%   แต่ยังคง GDP ปี 62 ที่ 4.1% ตามเดิม

-ดาวโจนส์ปิดร่วงลงเนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐดิ่งอย่างหนัก หลังจากทรัมป์ คัดค้านนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

+/-รมว.คลัง คาดอีก 4 ปีข้างหน้าหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงสุดที่ 48% จากปัจจุบัน 40.4% หลังลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.98 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 33.43 บาท/US

ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันปิดบวกต่อและงบการเงินกลุ่มแบงก์ใหญ่ออกมาดีกว่าคาด โดยมีปัจจัยกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปิดลบ และ Fund Flow ผันผวน   คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,635-1,655 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- KKP ปันผลสูงและเก็งผลประกอบการ 2Q61 ทรงตัว QoQ

- BANPU ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 116$/Ton

- CPALL ROBINS HMPRO BEM ครม.คง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี

- หุ้น Low Beta - High Div. : DIF DRT MC LH GLOW TCAP SCB KTB SAT

- SVI DELTA CPF GFPT กลุ่มส่งออก ค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ 33.43 บาท/US

หุ้นแนะนำพิเศษ

DELTA (ราคาปิด 66.50 บาท Bloomberg Consensus 69.06 บาท)

หลังผลประกอบการบริษัทเริ่มแสดงการชะลอตัว (4Q60 – 1Q61) จากผลลบค่าเงินบาท แข็งค่ารุนแรงไตรมาสดังกล่าว กอปรกับเป็นช่วง Low Season ในช่วงวันหยุดยาว แต่คาดฟื้นตัว QoQ ในงวด 2Q61 หลังค่าเงินบาทอ่อนค่ารวมกันกว่า 5.9% (เทียบกับ 1Q61 ที่แข็งค่า 4.2% และ 4Q60 ที่ 2.3%) ด้านการเติบโต YoY ยังสะท้อนจากการเพิ่มขึ้นของ Inventory ในงวด 1Q61 ราว 8% มาลดทอนผลลบจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ และ 2Q60 ยังเป็นฐานที่ต่ำมากเนืองจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษกว่า 600 ล้านบาท

แนวโน้ม 3Q61 ยังได้รับแรงหนุนจากช่วง High Season และ Consensus ยังคาดว่าผลประกอบการงวด 2Q61 น่าจะมีการเติบโตสูงถึง 26.4%QoQ และ 58.9%YoY ราคาเหมาะสมมี Upside ราว 3 – 4% แต่เป็นค่าเฉลี่ยในกรอบระหว่าง 60 บาท – 84 บาท แนะนำให้ “ซื้อเก็งกำไร” 

  • + DOD ขานรับนโยบายแผนแม่บทสมุนไพรแห่งชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย สู่ตลาดโลก ด้านผู้บริหาร ศุภมาส อิศรภักดี ระบุ การจัดตั้งโรงสกัด-ห้อง Lab ของ DOD เป็นการยกระดับมาตรฐานสารสกัดไทย ให้เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล(ที่มา : ข่าวหุ้น)
  • ความเห็น : เป็นความตั้งใจของบริษัทตั้งแต่เริ่มเสนอขายหุ้นสามัญครั้งแรก(IPO) ที่ต้องการผลักดันผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้ไปไกลระดับโลก โดยบริษัทมีแผนตั้งโรงงานสกัดแบบใช้ก๊าซและห้องแลปของตัวเอง เพื่อลดต้นทุนในการผลิตและใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในแบรนด์ของตนเอง
  • +AMATA มั่นใจกำไรสุทธิปีนี้สูงกว่า 1.4 พันลบ.ปีก่อน จากรายได้ประจำดีขึ้น-เล็งขึ้นราคาที่ดิน ,คาดขายเข้าเป้า 925 ไร่ปีนี้
  • +/-AOT มั่นใจจำนวนผู้โดยสารปีนี้โตตามเป้าที่ 9-10% แม้เดือน ก.ค.จะเติบโตเพียง 4.5% เชื่อผู้โดยสารชะลอระยะสั้น
  • UV เผย"สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์"ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างยื่นแบบคำขอไฟลิ่ง เสนอขาย IPO 68 ล้านหุ้น เข้าตลาด mai
  • AH มั่นใจผลประกอบการแกร่งไม่ทราบเหตุราคาหุ้นลงแรง ย้ำพื้นฐานไม่เปลี่ยน มีออเดอร์ลูกค้าใหม่เข้าต่อเนื่อง เชื่อทั้งปียังคงเป้ารายได้โต 3-5(ที่มาทันหุ้น)

หุ้นมีข่าว   

  • SCB แจ้ง  2Q61 มีกำไรสุทธิ 11,111 ล้านบาท แม้ลดลง 2%QoQ และ7%YoY แต่ดีกว่าคาดการณ์เฉลี่ยของ Bloomberg Consensus 12% รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 5%YoY เนื่องจากสินเชื่อเติบโต 6.7%YoY และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิปรับดีขึ้น QoQ และ YoY สู่ระดับ 3.21%   ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 6% จากผลกระทบของการยกเลิกค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านช่องทาง digital และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง  ในช่วงครึ่งแรกของปี 61 มีกำไรสุทธิ 22,476 ล้านบาท  ลดลง 6%YoY  มีแนวโน้มเติบโต Yoy ทั้งนี้คชจ.ที่สูงขึ้นในการดำเนินโครงการ SCB Transformation ส่งผลให้ธนาคารปรับเป้าหมายทางการเงินใหม่ในเฉพาะส่วนของ Cost to Income Ratio จากเดิม 42-45% เป็น 45-47% คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นโดยมี %NPL ลดเหลือ 2.81% จาก 2.83% ณ ปลายปี 60 Coverage Ratio เท่ากับ 143.5% สูงขึ้นจาก 137% ณ ปลายปี 60
  • BBL แจ้ง 2Q61 มีกำไรสุทธิ 9,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%YoY ดีกว่าคาดการณ์เฉลี่ย Bloomberg Consensus 15% โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 6%YoY รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 19%YoY แต่ลดลง 5%QoQ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านช่องทาง digital สินเชื่อเติบโต 1%YTD จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และสินเชื่อกิจการต่างประเทศ คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น %NPL ลดเหลือ 3.5% จาก 3.9% ณ ปลายปี 60 Coverage Ratio ปรับขึ้นสู่ 176% จาก 160% ณ ปลายปี. 61
  • BAY แจ้ง 2Q61 มีกำไรสุทธิ 6,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1%QoQ และ 7%YoY โดยต่ำกว่าคาดการณ์เฉลี่ย Bloomberg Consensus 9%  เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เพิ่มขึ้น 3%QoQ และ 9%YoY ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 72% ปรับดีขึ้นจาก 3.67% ใน 1Q61 แต่ลดลงจาก 3.89% ใน 2Q60   รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 14.5%YoY จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจเช่าซื้อ ธุรกรรมบริหารความมั่งคั่ง ธุรกิจหลักทรัพย์ และกำไรจากธุรกรรมเพื่อการค้าและปริวรรตเงินตราตปท. สินเชื่อเพิ่มขึ้น 5.9%YTD จากการเติบโตทุกกลุ่มธุรกิจ  Coverage Ratio ปรับดีขึ้นเป็น 162% จาก 157%    สำหรับงวดครึ่งแรกปี 61 มีกำไรสุทธิ 12,672 ล้านบาท +8%YoY
  • TMB มีกำไรสุทธิในช่วง 2Q61 เท่ากับ 2,026 ล้านบาท -11%QoQ -13%YoY ต่ำกว่าคาด Bloomberg Consensus 9%  โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 2%YoY จาก NIM ลดลงเหลือ 01% รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 6.6%  Coverage Ratio ทรงตัวที่ 140%  สินเชื่อคุณภาพเติบโต 1.6% จากสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่   %NPL ลดเหลือ 2.37% จากการ write-off 4,685 ล้านบาท กำไร 1H61 เท่ากับ 4,306 ล้านบาท -3%YoY