เผยยอดตั้งบริษัทใหม่ 6 เดือนแรกโต 4%

เผยยอดตั้งบริษัทใหม่ 6 เดือนแรกโต 4%

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย 6 เดือนแรก ยอดบริษัทตั้งใหม่ 3 7,548 ราย เพิ่มขึ้น 4 % ผลการเศรษฐกิจไทยขยายตัว คาดทั้งปีเป็นไปตามเป้า 8 หมื่นราย

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เดือนมิ.ย.มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ มีจำนวน 6,514 ราย เทียบกับเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 649 ราย คิดเป็น 11% และเทียบกับเดือนมิ.ย. 2560 ลดลงจำนวน 11 ราย คิดเป็น 0.2 % โดยธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 595 ราย รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 394 ราย ธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร 195 ราย โดยมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีจำนวน 24,589 ล้านบาท เทียบกับเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 3,499 ล้านบาท คิดเป็น 17% และเทียบกับเดือนมิ.ย. 2560 ลดลง 16,327 ล้านบาท คิดเป็น 40%

นางกุลณี กล่าวว่า จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มี 1,392 ราย เทียบกับเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 378 ราย คิดเป็น 37% และเทียบกับเดือนมิ.ย. 2560 ลดลง 156 ราย คิดเป็น 10% ธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 134 ราย รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 84 ราย ธุรกิจค้าสลาก 57 ราย มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ เดือนมิ.ย. 2561 มี 8,486 ล้านบาท เทียบกับเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 4,054 ล้านบาท คิดเป็น 91% และเทียบกับเดือนมิ.ย. 2560 เพิ่มขึ้น 402 ล้านบาท คิดเป็น 5%
นางกุลณี กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.- มิ.ย.61) มียอดจัดตั้งใหม่ จำนวน 37,548 ราย เทียบกับครึ่งปีหลัง 2560 ลดลง 1,027 ราย คิดเป็น 3% และเทียบกับครึ่งปีแรก 2560 เพิ่มขึ้น1,606 ราย คิดเป็น 4% ธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 3,458 ราย รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2,211 ราย ธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร 1,006 ราย โดยมีมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ครึ่งปีแรก 2561 มีจำนวน 142,872 ล้านบาท เทียบกับครึ่งปีหลัง 2560 ลดลง 212,537 ล้านบาท คิดเป็น 60% และเทียบกับครึ่งปีแรก 2560 ลดลง21,409 ล้านบาท คิดเป็น 13% สำหรับธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 6,289 ราย เทียบกับครึ่งปีหลัง2560 ลดลง 8,674 ราย คิดเป็น 58% และเทียบกับครึ่งปีแรก 2560 ลดลง 192 ราย คิดเป็น 3% ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 651 ราย รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 420 ราย และธุรกิจค้าสลาก 176 ราย

ทั้งนี้ มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ครึ่งปีแรก 2561 มีจำนวน 39,328 ล้านบาท เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลัง 2560 ลดลงจำนวน 30,931 ล้านบาท คิดเป็น 44% และเทียบกับครึ่งปีแรก 2560 เพิ่มขึ้น 7,796 ล้านบาท คิดเป็น 25 % โดย ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท จำนวน 622,355 ราย คิดเป็น 88 % รวมมูลค่าทุน 1.01 ล้านล้านบาท คิดเป็น 6% รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 67,462 ราย คิดเป็น 10% รวมมูลค่าทุน 1.81 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10% และช่วงทุนมากกว่า 100ล้านบาท จำนวน 14,432 ราย คิดเป็น 2% รวมมูลค่าทุน 14.96 ล้านล้านบาท คิดเป็น 84%

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า ยอดจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทเพิ่มขึ้น มีทิศทางสอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอย่างชัดเจนจากภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยว ส่วนในด้านการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มความเชื่อมั่นที่ดีจากการลงทุนที่กระจายตัวในแต่ละภูมิภาค หลังจากรัฐบาลเร่งรัดโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง และในด้านการบริโภคภาคเอกชนได้รับปัจจัยบวกจากโครงการต่างๆ ของภาครัฐ อาทิ โครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐของกระทรวงพาณิชย์ที่จะกระจายเม็ดเงินจากการรับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแบบใช้โทรศัพท์มือถือ หรือแอพพลิเคชัน “ถุงเงินประชารัฐ” จากเดิมที่ใช้จ่ายซื้อสินค้าที่มีเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) เท่านั้น โดยเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในวงกว้างมากขึ้น จะช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ และดันยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจปี 2561 ไม่น้อยกว่า 80,000 ราย